เรียนธุรกิจการบิน ครอบคลุมทั้งอินไฟท์และภาคพื้น
รถไฟความเร็วสูงก็ยังไม่มี ความเร็วปลานกลางก็ยังไม่มา แถมราคาค่ารถก็แพงขึ้นทุกวัน ในขณะที่ค่าตั๋วเครื่องบินก็ถูกลงพอให้เอื้อมถึงกันได้ ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมธุรกิจนี้จึงเติบโตขึ้นพอที่จะทำให้มีผู้ประกอบการรายใหม่กระโจนเข้ามาเล่นในเกมนี้ด้วย ล่าสุดกับสายการบินต้นทุนต่ำน้องใหม่อย่างไทยไลอ้อนแอร์ ที่พยายามเข้ามาแข่งกับเจ้าตลาดอย่างไทยแอร์เอเชีย ที่จัดโปรโมชั่นแต่ละครั้งค่าตั๋วถูกกว่าค่ารถทัวร์เสียอีก แต่คนมักจะมองธุรกิจนี้แคบๆ ว่ามีคนทำงานอยู่แค่ แอร์โฮสเตส สจ๊วต และนักบิน แล้วลืมมองรอบๆ ตัว ที่มีพนักงานภาคพื้นอยู่ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักธุรกิจนี้ให้มากขึ้นผ่านสาขาการจัดการธุรกิจการบิน คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแสตมฟอร์ด
ภายในหลักสูตรบริหารธุรกิจการบินเองแบ่งการเรียนรู้ออกเป็น 3 ภาคส่วน ได้แก่ ภาคเทคโนโลยี ที่เรียนรู้เกี่ยวกับการ Take - off และการ Landing ซึ่งจะต้องมีคนเข้าไปเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ภาคการบริการ เป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการให้บริการผู้โดยสารบนเครื่องบิน และสุดท้าย ภาคบริการสนามบิน ซึ่งเป็นอีกส่วนหนึ่งที่มีความสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนที่ต้องคอยในบริการ อำนวยความสะดวก และตรวจสอบความปลอดภัยให้กับผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่องนั้นเอง
อาจารย์ รุ่งแก้ว เกตุแก้ว หัวหน้าภาควิชาการจัดการธุรกิจการบิน ได้เล่าถึงการเรียนการสอนในสาขาไว้อย่างน่าสนใจว่า “สาขาการจัดการธุรกิจการบิน มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ดนั้น สิ่งแรกที่นักศึกษาจะต้องเรียนรู้คือการปรับบุคลิกภาพ และการสร้างความน่าเชื่อถือ” นักศึกษาต้องปรับทัศนคติให้มีความคิดด้านบวกต่องานบริการ แล้วจึงเริ่มเรียนพื้นฐานภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นการเตรียมพร้อมสู่การเรียนวิชาอื่นๆ ที่ต้องเรียนเป็นภาษาอังกฤษ เทอมต่อไปจะเริ่มเรียนในส่วนของวิชาที่จะทำให้นักศึกษาได้เข้าใจถึงการทำงานของเครื่องบิน ในวิชาเกี่ยวกับแอร์ไลน์เทคโนโลยี และวิชาที่จะต้องเรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานในตำแหน่งต่างๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจการบิน ไปจนถึงการเรียนรู้เกี่ยวกับกฎ กติกา มารยาท ในการบิน แล้วเริ่มเรียนในสิ่งที่ยากขึ้นเรื่อยๆ ในเทอมถัดไป ปีการศึกษาถัดไป เนื้อหาจะค่อยๆ เพิ่มระดับความยาก และความลึกของข้อมูล ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการจัดการต่างๆ ตั้งแต่การจองตั๋ว การเช็คอิน การจัดการกระเป๋า การทำงานบนเครื่องบิน ไปจนกระทั้งการไปฝึกงานในเทอมสุดท้ายของการศึกษา ซึ่งจะต้องใช้เวลาทั้งหมด 3 ปี 1 เทอมเพื่อการสำเร็จการศึกษา
จะเห็นได้ว่าจุดเด่นของที่นี้นอกจากจะมีการเรียนที่สอนให้นักศึกษาได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำงานในธุรกิจการบินที่ครอบคลุมทั้งภาคพื้น และบนเครื่องบินแล้ว ภาษาอังกฤษก็เป็นอีกสิ่งที่ถูกให้ความสำคัญ โดยนักศึกษาที่จะจบจากที่นี่ได้จะต้องมีคะแนนสอบ TOEIC 600 คะแนน สำหรับหลักสูตรนานาชาติ และ 550 คะแนน สำหรับหลักสูตร 2 ภาษา อาจารย์ รุ่งแก้ว ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า “เราจะต้องเป็นศูนย์กลางการบินในเวลาอันใกล้นี้ ฉะนั้นภาษาอังกฤษจึงต้องเป็นหลักเลย” ฉะนั้นนอกจากความรู้ ความเชียวชาญที่เกิดในห้องเรียน และการปฏิบัติงานจริงแล้ว ภาษาอังกฤษก็เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่จะทำให้นักศึกษาจากแสตมฟอร์ดได้เปรียบคู่แข่งจากที่อื่นๆ