"ล่องสำเภา ค้าขายกับจีน" รีวิวสาขาวิชาภาษาจีนสื่อสารธุรกิจ : U-Review
“จีน” หนึ่งในประเทศยักษ์ใหญ่ด้านเศรษฐกิจ สินค้าอิเล็คทรอนิคแทบทุกอย่างที่เราใช้ผลิตในประเทศจีน มีการลงทุนด้านเศรษฐกิจไปทั่วโลก ไม่แพ้ชาติตะวันตกอย่างสหรัฐอเมริกา อีกทั้งยังเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรมากมากที่สุดในโลกกว่าหนึ่งพันล้านคน ที่มีวัฒนธรรม และภาษาเป็นของตนเอง การสร้างบุคลากรที่มีความสามารถด้านภาษา และมีความรู้ด้านวัฒนธรรมจีนจึงเป็นเรื่องสำคัญ หากเราอยากค้าขายกับประเทศจีนอย่างราบรื่น และสร้างความได้เปรียบกับคู่แข่งทางการค้า
“ความได้เปรียบเมื่อเราพูดภาษาจีนได้อีกหนึ่งภาษา คือเราจะสามารถสื่อสารกับคนได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งพันล้านคนทั่วโลก”
ดร. วิลาสินี ดาราฉาย
ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ภายใต้แนวคิดเหล่านี้เองได้ทำให้คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม สร้างหลักสูตรใหม่ที่จะที่ให้การติดต่อสื่อสาร และการทำธุรกิจกับคนจีนราบรื่นขึ้นในชื่อ “สาขาวิชาภาษาจีนสื่อสารธุรกิจ” ในการเรียนภายในสาขานี้ น้องๆ จะได้เริ่มเรียนกันตั้งแต่พื้นฐานภาษาจีน และพื้นฐานด้านการทำธุรกิจก่อนในปีแรก แล้วค่อยขยับเป็นวิชาเกี่ยวกับความรู้ด้านการบริหารธุรกิจ การแปลเอกสาร การสื่อสารภาษาจีนเพื่อธุรกิจ ไปจนถึงกฎหมายเกี่ยวกับการค้า
“คนจีนมีความรู้สึกว่า ถ้าเราใช้ภาษาจีนคุยกับเขา เขาจะรู้สึกเป็นกันเอง ใกล้ชิดขึ้น คุยง่ายขึ้น”
อ.หลี่ จุน
หัวหน้าสาขาวิชาภาษาจีนสื่อสารธุรกิจ
ด้านการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน ในมหาวิทยาลัยมีศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีน ค่อยให้ความร่วมมือเกี่ยวกับการหาทุน และการแลกเปลี่ยนนักศึกษา อีกทั้งมี MOU กับมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยรัฐอันดับ 6 ของจีน ในความร่วมมือแลกเปลี่ยนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ก่อนที่น้องๆ จะได้กลับมาฝึกงานต่อที่ไทยในชั้นปีที่ 4 หรือเลือกจะฝึกงานต่อที่ประเทศจีนเลยก็ได้ โดยมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงจะเป็นผู้แนะนำบริษัทให้
ฉะนั้นการเรียนที่นี่นอกจากจะเป็นการสร้างทักษะภาษาใหม่แล้ว ยังได้เรื่องของการสร้างอาชีพ สร้างโอกาสให้น้องๆ สามารถหางานได้ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ได้เรียนรู้เรื่องการเติบโตทางธุรกิจ เห็นช่องทางที่มากกว่าคนอื่น ถ้าอยากจะสร้างบริษัท Startup หรือธุรกิจ SME ด้วยตนเองก็สามารถทำได้ การเรียนภาษาจีนจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะเพิ่มศักยภาพของตนเองได้ ก่อนหน้านี้เราอาจจะคิดแค่ว่าเรียนภาษาจีน จบแล้วก็เป็นได้แค่ครูสอนภาษาจีน แต่ทุกวันนี้ความคิดนั้นต้องเปลี่ยนได้แล้ว เพราะมีคนจีนเข้ามาเยอะ มีการลงทุน มีโอกาสเยอะมาก
“ความได้เปรียบเมื่อเราพูดภาษาจีนได้อีกหนึ่งภาษา คือเราจะสามารถสื่อสารกับคนได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งพันล้านคนทั่วโลก”
ดร. วิลาสินี ดาราฉาย
ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม
ภายใต้แนวคิดเหล่านี้เองได้ทำให้คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม สร้างหลักสูตรใหม่ที่จะที่ให้การติดต่อสื่อสาร และการทำธุรกิจกับคนจีนราบรื่นขึ้นในชื่อ “สาขาวิชาภาษาจีนสื่อสารธุรกิจ” ในการเรียนภายในสาขานี้ น้องๆ จะได้เริ่มเรียนกันตั้งแต่พื้นฐานภาษาจีน และพื้นฐานด้านการทำธุรกิจก่อนในปีแรก แล้วค่อยขยับเป็นวิชาเกี่ยวกับความรู้ด้านการบริหารธุรกิจ การแปลเอกสาร การสื่อสารภาษาจีนเพื่อธุรกิจ ไปจนถึงกฎหมายเกี่ยวกับการค้า
“คนจีนมีความรู้สึกว่า ถ้าเราใช้ภาษาจีนคุยกับเขา เขาจะรู้สึกเป็นกันเอง ใกล้ชิดขึ้น คุยง่ายขึ้น”
อ.หลี่ จุน
หัวหน้าสาขาวิชาภาษาจีนสื่อสารธุรกิจ
ด้านการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมจีน ในมหาวิทยาลัยมีศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีน ค่อยให้ความร่วมมือเกี่ยวกับการหาทุน และการแลกเปลี่ยนนักศึกษา อีกทั้งมี MOU กับมหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยรัฐอันดับ 6 ของจีน ในความร่วมมือแลกเปลี่ยนนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ก่อนที่น้องๆ จะได้กลับมาฝึกงานต่อที่ไทยในชั้นปีที่ 4 หรือเลือกจะฝึกงานต่อที่ประเทศจีนเลยก็ได้ โดยมหาวิทยาลัยเจ้อเจียงจะเป็นผู้แนะนำบริษัทให้
ฉะนั้นการเรียนที่นี่นอกจากจะเป็นการสร้างทักษะภาษาใหม่แล้ว ยังได้เรื่องของการสร้างอาชีพ สร้างโอกาสให้น้องๆ สามารถหางานได้ทั้งในประเทศ และนอกประเทศ ได้เรียนรู้เรื่องการเติบโตทางธุรกิจ เห็นช่องทางที่มากกว่าคนอื่น ถ้าอยากจะสร้างบริษัท Startup หรือธุรกิจ SME ด้วยตนเองก็สามารถทำได้ การเรียนภาษาจีนจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะเพิ่มศักยภาพของตนเองได้ ก่อนหน้านี้เราอาจจะคิดแค่ว่าเรียนภาษาจีน จบแล้วก็เป็นได้แค่ครูสอนภาษาจีน แต่ทุกวันนี้ความคิดนั้นต้องเปลี่ยนได้แล้ว เพราะมีคนจีนเข้ามาเยอะ มีการลงทุน มีโอกาสเยอะมาก