เรียนเรือสำราญ ได้ทั้งงาน ได้ทั้งเที่ยว
ในชีวิตนี้หากมีโอกาสได้ร่องเรือสำราญสักครั้งคงจะดี แต่สถานะทางการเงินที่ไม่เอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ คนส่วนมากจึงได้เที่ยวแต่ทางบก เดินทางด้วยรถไม่ว่าจะรถส่วนตัว หรือรถสาธารณะ น้องๆ คงเคยนั่งมาหมดแล้ว แต่ถ้าเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ที่สามารถจุคนได้เป็นพัน น้องหลายๆ คนคงยังไม่เคย และถ้าหากว่าได้ล่องเรือสำราญในฐานะนักท่องเที่ยวน้องๆ อาจได้ขึ้นแค่ไม่กี่ครั้ง เพราะราคาตั๋วที่สูงลิบลิ่ว แต่ถ้าเกิดว่าได้ทำงานบนเรือสำราญเลย จะได้ทั้งเงิน และเที่ยว พร้อมสวัสดิการที่เลิศเลอเพอร์เฟค ที่สำคัญเป็นอาชีพที่เงินเดือนเริ่มต้นที่ 40,000 บาท !!
มีสาขาหนึ่งในมหาวิทยาลัยศรีปทุมที่อยากจะแนะนำน้องๆ ที่มีใจรักบริการ สนใจทำงานเก็บเกี่ยวประสบการณ์แปลกใหม่ในต่างแดน และต้องการสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำในช่วงเวลาสั้นๆ ของชีวิต สาขาที่ว่านั้นคือ สาขาการจัดการบริการธุรกิจเรือสำราญ ของคณะศิลปศาสตร์ เมื่อจบไปแล้วจะได้ทำงานที่คล้ายกับการทำหน้าที่ในโรงแรมทั่วไป คือมีส่วน Front of the house ที่ทำหน้าที่ต้อนรับแขก ซึ่งในโรงแรมโดยปกติจะมีแค่พนักงานต้อนรับและเค้าเตอร์ แต่บนเรือสำราญนั้นจะพิเศษกว่าเป็น Guest contact staff อธิบายง่ายๆคือ พนักงานสายตรงที่จะต้องเจอกับแขกที่มาใช้บริการ เช่น พนักงานเสิร์ฟ (waiter waitress) ที่จะคอยมาเติมน้ำ หรือเข้ามาถามว่าต้องการอะไรเพิ่มหรือไม่ ดูแลอย่างใกล้ชิด เป็นต้น และ ส่วน Back of the house หรือ heart of the house เป็นส่วนที่คอยสนับสนุน ที่ไม่ได้พบปะกับแขกบนเรือโดยตรงพวกนี้ก็จะเป็นคนขับเคลื่อนส่วนต่างๆ ในเรือ ทั้งห้องครัว งานทำความสะอาดส่วนต่างๆ งานซ่อมบำรุง และงานสนับสนุนอื่นๆ แม้กระทั่งพวกเซลล์ก็เป็นฝ่ายสนับสนุนที่หาลูกค้าเข้ามา
ดร.ยุพวรรณ นังคลาภิวัฒน์ รองคณบดีคณะศิลปศาสตร์ และประธานสาขาการจัดการบริการธุรกิจเรือสำราญ มองว่า เด็กไทยนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลก เป็นผู้นำในด้านบริการ เพราะถูกปลูกฝั่งมาตั้งแต่เกิดจากพ่อแม่ ว่าพอเริ่มโต เริ่มที่จะดูแลตัวเองได้ ควรที่จะดูแลบุพการี หรือญาติผู้ใหญ่ก่อน เมื่อแขกมาถึงบ้านจะต้องดูแลเขาก่อน เพราะฉะนั้นชาติไหนก็สู้ไม่ได้ นี่คือจุดเด่นของคนไทยที่มีใจบริการ สำหรับงานบริการบนเรือสำราญเรียกง่ายๆ คือ โรงแรมลอยน้ำ ที่ยกโรงแรมมาไว้ในเรือ การปฏิบัติงานก็เหมือนการทำงานในโรงแรมมีทุกแผนกแต่ตำแหน่งที่เขาต้องการมากๆ คือ ตำแหน่งงานที่ต้องทำงานในห้องพักและงานบริการจัดเลี้ยง
ในส่วนกระบวนการเรียนนั้น เริ่มตั้งแต่ปี 1 ทางสาขาจะให้เรียนวิชาพื้นฐานก่อน ทั้งวิชาภาษาอังกฤษ และวิชาทางด้านสังคมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งสอนเกี่ยวกับการมีจิตใจบริการ รวมทั้งเรียนรู้ว่าธุรกิจเรือสำราญ มีรายละเอียดอะไรบ้างที่สำคัญ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การพัฒนาตนเองให้สามารถทำงานในระดับผู้บริหารได้ พอขึ้นปี 2 ก็จะเข้าเนื้อหาตรงที่นักศึกษาเลือกมากขึ้น ได้แก่ ด้านสำนักงานส่วนหน้า (Front Office) ด้านห้องพัก (Housekeeping) และด้านบริการอาหาร และเครื่องดื่ม (Food & Beverage Service) บนเรือสำราญ ซึ่งจากทั้งหมดนักศึกษาต้องเลือกเรียน 1 ด้าน แล้วทางสาขาก็จะไปเจาะ และสอนเน้นตรงนั้น พอปี 3 ก็จะเข้าสายการบริหารจัดการ และปี 4 จะมีการดูงานบนเรือสำราญจริงๆ ซึ่งจะมีเรือมาจอดเทียบท่าแหลมฉบัง ทางสาขาจึงมีโอกาสพานักศึกษาไปดูงานที่นั้นได้ แต่หากใครมีความขยันก็สามารถเรียนจบภายในสามปีครึ่งได้
และอย่างที่เกริ่นไปในตอนแรกแล้วว่าอาชีพนี้เงินเดือนเริ่มต้นที่ 40,000 บาท อันที่จริงนั้นเป็นแค่รายได้ของเงินเดือนเท่านั้น ถ้าใครบริการดี สามารถทำให้แขกบนเรือประทับใจได้ อาจจะได้ทิปจากแขกเพิ่มอีก ที่สำคัญสวัสดิการทานอาหารฟรี ที่ปกติทางโรงแรมจะให้พนักงานทานแค่ 2 มื้อเท่านั้น แต่เมื่อเป็นโรงแรมบนเรือสำราญจะได้ทานฟรีทั้งหมด 5 มื้อ ปกติทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ หยุด 1 วัน พนักงานสามารถขึ้นฝั่งเที่ยวได้ในกรณีที่เรือนั้นจอดเทียบท่า ณ ประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่ถ้าหากใครไม่สนใจเที่ยวในวันหยุดนั้น สามารถเก็บสะสมวันหยุดนั้นได้เพื่อใช้ในครั้งต่อไปได้เช่นกัน
เส้นทางของอาชีพนี้ จะต้องเจอชาวต่างชาติแน่นอน น้องๆ หลายคนคงกังวลเรื่องภาษาอังกฤษ แต่เราของบอกไว้เลยว่าในงานบริการภาษาเป็นเรื่องรอง เรื่องหลักคือหัวใจที่รักในการบริการ คือการปฏิบัติดูแล จุดหนึ่งของรายได้มันอยู่ที่รายละเอียดการบริการที่เรียกว่า “Service mind หรือหัวใจของงานบริการ” ส่วนในเรื่องของภาษานั้นก่อนมาทำงานน้องๆ จะต้องสื่อสารได้ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว และการสนทนาบนเรือที่มีแต่ภาษาอังกฤษ จะทำให้เราเก่งขึ้นเรื่อยๆ ด้วยตัวของเราเอง ด้วยประสบการณ์ของเราเอง เราเชื่อว่าไม่มีอะไรยากเกินไป ถ้าเรายังไม่ได้ลงมือทำ