"นักศึกษาไทย ได้ทุนเรียนต่อญี่ปุ่นเต็มจำนวน" ตามติดชีวิตนักศึกษาไทยในประเทศญี่ปุ่น 1 วันเต็ม : U - Review
การเดินทางไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งในความฝันของน้อง ๆ หลายคน และมีหลายคนยังนึกภาพไม่ออกหรือยังกังวลว่า ถ้าไปเรียนที่ญี่ปุ่นแล้วจะใช้ชีวิตอย่างไร วันนี้พี่บิวจะพาน้องๆมาตามติดชีวิตของนักศึกษาไทยที่เรียนที่ญี่ปุ่นใน หลักสูตรสาขาวิชาบริหารธุรกิจญี่ปุ่น(BJ) สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น ว่าเขาใช้ชีวิตที่กันอย่างไรบ้าง ตามมาเลยค่ะ
ก่อนอื่นพี่บิวขอแนะนำนักศึกษาไทยที่มาเรียนที่ญี่ปุ่นก่อนนะคะ นั่นก็คือ พี่อ๋อม และ พี่ไม้สัก ทั้งคู่เรียนสาขาวิชาการบริหารธุรกิจญี่ปุ่น ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น เรามาเริ่มต้นสแกนการใช้ชีวิตนักศึกษาไทยในประเทศญี่ปุ่นกันเลย เริ่มจากการบุกหอพักที่พี่ๆพักอาศัย มาดูกันว่าพี่ๆเขาอยู่หอพักแบบไหน กินกันอย่างไร นอนกันแบบไหน เริ่มจากหน้าตาหอพักภายนอกเหมือนอาคารที่พักทั่วไป เมื่อเข้ามาแล้วจะเห็นว่าหอพักนี้จะแบ่งห้องพักชายและห้องพักหญิงเป็นชั้นๆ เราใช้ห้องน้ำรวมกันโดยแบ่งเป็นชั้น และไม่ต้องกลัวว่าจะคิดถึงอาหารไทยเพราะ “เราทำอาหารไทยกินกันก็จะได้ไม่คิดถึงประเทศไทย” ภายในห้องครัวจะมีทั้งเตาไฟ ไมโครเวฟ ตู้อบ อ่างล้างจาน และตู้เย็น แน่นอนว่าเป็นตู้เย็นรวม การทำอาหารในต่างแดนจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
ต่อไปก็ถึงห้องพักผู้ชาย เมื่อเข้าไปในห้องแล้วรูปแบบและเฟอร์นิเจอร์เหมือนห้องพี่อ๋อมเลย เสริมเรื่องห้องพักคือถ้าอยู่คนเดียวจะมีเตียงเดี่ยวแทนเตียงสองชั้น และแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวสำหรับห้องเดี่ยว ราคาห้องต่อเดือนประมาณ 15,000 บาท ถัดจากชั้น 5 ขึ้นไปจะเป็นสถานที่สำหรับซักผ้าหยอดเหรียญ และที่ตากผ้าที่แยกโซนสำหรับชายหญิงไว้ด้วย
ในส่วนของห้องโถงเหมาะสำหรับทำงานมากมายในโทนสีส้มนวลตา และด้านนอกระเบียงยังมีโต๊ะปิงปอง 2 ตัวไว้ให้น้องๆออกกำลังกายกัน ระเบียงอีกฝั่งหนึ่งที่จะเป็น โซนสำหรับสูบบุหรี่ ประเทศญี่ปุ่นจะเคร่งครัดมากกับการสูบบุรี่ในที่สาธารณะ จึงจะมีการจัดโซนนี้ขึ้นมา ต่อไปพี่บิวจะน้องๆไปดูชั้นใต้ดินซึ่งเป็นห้องอาหาร เมื่อลงมาแล้วเห็นว่าห้องอาหารนี้ดูดีมาก มีโต๊ะให้นั่งมากมายในโทนสีขาวสะอาดตา มีตู้กดน้ำดื่ม และมีไมโครเวฟสำหรับอุ่นอาหารถึง 6 ตัว ห้องอาหารนี้สามารถซื้ออาหารเข้ามาทานได้หรือจะทำกับข้าวเองก็ได้ เพราะในห้องอาหารนี้มีห้องทำอาหารรวมซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าห้องทำกับข้าวชั้นบน และเครื่องครัวมากกว่า พี่ไม้สักแนะนำว่าควรเตรียมเครื่องครัวมาเองเช่น กระทะ ตะหลิว เพราะที่นี่ไม่มีให้ใช้และค่าใช้จ่ายจะไปลงที่ของสดอย่างเดียว ได้เห็นทุกซอกทุกมุมของหอพักกันไปแล้ว ต่อไปพี่บิวจะพาน้องๆไปลุย ABK College ตะลุยการเรียนฉบับคนญี่ปุ่น
เราจะเดินทางไป ABK College ในแบบที่พี่อ๋อมและพี่ไม้สัก ใช้ประจำนั่นคือ การเดินไปนั่นเอง เพราะหอพักนี้ตั้งอยู่ใกล้มหาลัยมากๆ และหอพักนี้ราคาถูกกว่าหอพักข้างนอกอยู่มาก พี่อ๋อมเสริมนิดนึงว่าหากน้องๆมาเรียนที่นี่สามารถอยู่หอนอกได้นะ แต่น้องๆจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทั้งค่าที่พักและค่าเดินทางเลย แต่ก็มีหอพักของมหาลัยที่ไกลออกไปถึง 4-5 สถานีซึ่งในส่วนนี้ทางมหาลัยจะมีค่าเดินทางชดเชยให้นักศึกษาด้วย เมื่อออกมาหน้าหอพักจะพบจักรยานมากมายจอดอยู่หน้าหอและมีตู้กดน้ำเรียงอยู่ถึง 3 ตู้ติดกันเลย ก่อนไปเรียนสามารถกดน้ำดื่มไปเดินไปได้สบายๆ เดินมาเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว ABK College เข้ามาก้าวแรกสัมผัสได้ถึงความสบายตาของการตกแต่งสถานที่ และความเป็นมิตรของเพื่อนๆที่นี่ บรรยากาศการเรียนการสอนก็จะเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นเลย คือ มีไวท์บอร์ด และโต๊ะหน้าชั้นเรียนหนึ่งตัวสำหรับอาจารย์ ส่วนนักศึกษาก็นั่งเรียนกันห้องแน่นตาทีเดียว
พี่บิวว่าเรามาทำความรู้จักพี่อ๋อมและพี่ไม้สักให้มากขึ้นอีกนิดดีกว่า เริ่มจากพี่อ๋อม เรียนจบสายศิลป์ญี่ปุ่นจากโรงเรียนระยองวิทยาคม และเลือกมาเรียนที่นี่เพราะสนใจในภาษาญี่ปุ่นและการบริหารจึงเลือกมาเรียนที่ญี่ปุ่นเลย หลักสูตรที่เลือกคือหลักสูตรสาขาวิชาการบริหารธุรกิจญี่ปุ่น ซึ่งต่างจากคณะบริหารทั่วไปคือ คณะเรานำการบริหารมาผสมกับอักษรศาสตร์ภาษาญี่ปุ่น และสาขานี้สามารถสร้างทั้งษะทั้งสองที่พี่อ๋อมต้องการได้ด้วย ส่วนพี่ไม้สักเรียนจบสายวิทย์คณิตจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เรียนอยู่ชั้นปี 1 ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และตัดสินใจมาเรียนคอร์สระยะสั้นที่ ABK College ด้วยเหตุผลว่า จริงๆแล้วพี่ไม้สักถนัดภาษาอังกฤษเป็นหลัก และคิดว่าหากเราได้เพิ่มอีกภาษาจะทำให้เราสามารถยกระดับตัวเองและมีโอกาสในการทำงานมากขึ้น จึงเลือกเรียนภาษาญี่ปุ่นและมาเรียนทีนี่ แม้ว่าพี่ไม้สักจะไม่มีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นเลย แต่ที่นี่มีการปรับพื้นฐานให้ ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าไม่มีพื้นฐานแล้วจะมาเรียนที่นี่ไม่ได้ สำหรับสาขาวิชานี้เป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต(บริหารธุรกิจญี่ปุ่น) เรียน 4 ปี สาขาของเราเน้นทั้งการสื่อสารภาษาญี่ปุ่นที่สามารถใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ และมีความรู้ความสามารถด้านการบริหารจัดการองค์กร การเงินและการลงทุน การตลาด กฎหมายทางธุรกิจ การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ทำให้สามารถนำจุดแข็งของระบบงานแบบญี่ปุ่นไปประยุกต์ใช้ในองค์กรได้
วันแรกของ ABK College จะมีการสอบเพื่อวัดระดับน้องๆว่า น้องๆอยู่ในคลาสไหน สำหรับพี่อ๋อมอยู่ที่คลาส B2 และพี่ไม้สัก อยู่คลาส B3 ถัดจากพี่อ๋อมเลย คลาส B จะเป็นคลาสกลางๆที่เลยพื้นฐานขึ้นมาแต่ก็ไม่ยาก เช่น การเรียนตัวคันจิ การเรียนไวยกรณ์ ภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวัน เมื่อพี่บิวลองมาแอบดูในห้องเรียนแล้วเห็นชัดๆเลยว่า อาจารย์ใช้ภาษาญี่ปุ่นสอนจริงๆ นักเรียนก็ได้ฝึกออกเสียงตามอาจารย์ได้ดีเช่นกัน และพี่บิวขอกระซิบข่าวดีสำหรับน้องๆที่สนใจมาเรียนที่ญี่ปุ่น คือ ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่นมีทุนต่างๆคอยซัพพอร์ทน้องๆด้วย อย่างพี่อ๋อมได้รางวัลชนะเลิศจากการประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่นของมหาวิทยาลัยจึงได้รับทุนมาเรียนที่ ABK College ฟรี 2 เดือนพร้อมที่พักด้วย
แน่นอนว่าเรียนภาษากับเจ้าของภาษาย่อมดีที่สุด และบรรยากาศของที่นี่ทั้งการเรียน การใช้ชีวิต พี่บิวก็ได้พาไปดูทุกตารางนิ้วแล้ว น้องๆเห็นใช่ไหมว่าที่นี่ทั้งสะอาด เป็นระเบียบ และน่าอยู๋มากๆ สำหรันน้องๆที่กำลังมองหาสถาบันสำหรับเรียนภาษาญี่ปุ่น เข้ามาที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่นได้เลย เพราะที่นี่มีความญี่ปุ่นมากมายที่พร้อมจะมอบให้น้องๆ และน้องๆอาจได้รับทุนไปเรียนต่อที่ ABK College ที่ประเทศญี่ปุ่นแบบพี่อ๋อมก็ได้
ก่อนอื่นพี่บิวขอแนะนำนักศึกษาไทยที่มาเรียนที่ญี่ปุ่นก่อนนะคะ นั่นก็คือ พี่อ๋อม และ พี่ไม้สัก ทั้งคู่เรียนสาขาวิชาการบริหารธุรกิจญี่ปุ่น ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น เรามาเริ่มต้นสแกนการใช้ชีวิตนักศึกษาไทยในประเทศญี่ปุ่นกันเลย เริ่มจากการบุกหอพักที่พี่ๆพักอาศัย มาดูกันว่าพี่ๆเขาอยู่หอพักแบบไหน กินกันอย่างไร นอนกันแบบไหน เริ่มจากหน้าตาหอพักภายนอกเหมือนอาคารที่พักทั่วไป เมื่อเข้ามาแล้วจะเห็นว่าหอพักนี้จะแบ่งห้องพักชายและห้องพักหญิงเป็นชั้นๆ เราใช้ห้องน้ำรวมกันโดยแบ่งเป็นชั้น และไม่ต้องกลัวว่าจะคิดถึงอาหารไทยเพราะ “เราทำอาหารไทยกินกันก็จะได้ไม่คิดถึงประเทศไทย” ภายในห้องครัวจะมีทั้งเตาไฟ ไมโครเวฟ ตู้อบ อ่างล้างจาน และตู้เย็น แน่นอนว่าเป็นตู้เย็นรวม การทำอาหารในต่างแดนจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก
ต่อไปก็ถึงห้องพักผู้ชาย เมื่อเข้าไปในห้องแล้วรูปแบบและเฟอร์นิเจอร์เหมือนห้องพี่อ๋อมเลย เสริมเรื่องห้องพักคือถ้าอยู่คนเดียวจะมีเตียงเดี่ยวแทนเตียงสองชั้น และแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวสำหรับห้องเดี่ยว ราคาห้องต่อเดือนประมาณ 15,000 บาท ถัดจากชั้น 5 ขึ้นไปจะเป็นสถานที่สำหรับซักผ้าหยอดเหรียญ และที่ตากผ้าที่แยกโซนสำหรับชายหญิงไว้ด้วย
ในส่วนของห้องโถงเหมาะสำหรับทำงานมากมายในโทนสีส้มนวลตา และด้านนอกระเบียงยังมีโต๊ะปิงปอง 2 ตัวไว้ให้น้องๆออกกำลังกายกัน ระเบียงอีกฝั่งหนึ่งที่จะเป็น โซนสำหรับสูบบุหรี่ ประเทศญี่ปุ่นจะเคร่งครัดมากกับการสูบบุรี่ในที่สาธารณะ จึงจะมีการจัดโซนนี้ขึ้นมา ต่อไปพี่บิวจะน้องๆไปดูชั้นใต้ดินซึ่งเป็นห้องอาหาร เมื่อลงมาแล้วเห็นว่าห้องอาหารนี้ดูดีมาก มีโต๊ะให้นั่งมากมายในโทนสีขาวสะอาดตา มีตู้กดน้ำดื่ม และมีไมโครเวฟสำหรับอุ่นอาหารถึง 6 ตัว ห้องอาหารนี้สามารถซื้ออาหารเข้ามาทานได้หรือจะทำกับข้าวเองก็ได้ เพราะในห้องอาหารนี้มีห้องทำอาหารรวมซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าห้องทำกับข้าวชั้นบน และเครื่องครัวมากกว่า พี่ไม้สักแนะนำว่าควรเตรียมเครื่องครัวมาเองเช่น กระทะ ตะหลิว เพราะที่นี่ไม่มีให้ใช้และค่าใช้จ่ายจะไปลงที่ของสดอย่างเดียว ได้เห็นทุกซอกทุกมุมของหอพักกันไปแล้ว ต่อไปพี่บิวจะพาน้องๆไปลุย ABK College ตะลุยการเรียนฉบับคนญี่ปุ่น
เราจะเดินทางไป ABK College ในแบบที่พี่อ๋อมและพี่ไม้สัก ใช้ประจำนั่นคือ การเดินไปนั่นเอง เพราะหอพักนี้ตั้งอยู่ใกล้มหาลัยมากๆ และหอพักนี้ราคาถูกกว่าหอพักข้างนอกอยู่มาก พี่อ๋อมเสริมนิดนึงว่าหากน้องๆมาเรียนที่นี่สามารถอยู่หอนอกได้นะ แต่น้องๆจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นทั้งค่าที่พักและค่าเดินทางเลย แต่ก็มีหอพักของมหาลัยที่ไกลออกไปถึง 4-5 สถานีซึ่งในส่วนนี้ทางมหาลัยจะมีค่าเดินทางชดเชยให้นักศึกษาด้วย เมื่อออกมาหน้าหอพักจะพบจักรยานมากมายจอดอยู่หน้าหอและมีตู้กดน้ำเรียงอยู่ถึง 3 ตู้ติดกันเลย ก่อนไปเรียนสามารถกดน้ำดื่มไปเดินไปได้สบายๆ เดินมาเพียงไม่กี่ก้าวก็ถึงแล้ว ABK College เข้ามาก้าวแรกสัมผัสได้ถึงความสบายตาของการตกแต่งสถานที่ และความเป็นมิตรของเพื่อนๆที่นี่ บรรยากาศการเรียนการสอนก็จะเหมือนในการ์ตูนญี่ปุ่นเลย คือ มีไวท์บอร์ด และโต๊ะหน้าชั้นเรียนหนึ่งตัวสำหรับอาจารย์ ส่วนนักศึกษาก็นั่งเรียนกันห้องแน่นตาทีเดียว
พี่บิวว่าเรามาทำความรู้จักพี่อ๋อมและพี่ไม้สักให้มากขึ้นอีกนิดดีกว่า เริ่มจากพี่อ๋อม เรียนจบสายศิลป์ญี่ปุ่นจากโรงเรียนระยองวิทยาคม และเลือกมาเรียนที่นี่เพราะสนใจในภาษาญี่ปุ่นและการบริหารจึงเลือกมาเรียนที่ญี่ปุ่นเลย หลักสูตรที่เลือกคือหลักสูตรสาขาวิชาการบริหารธุรกิจญี่ปุ่น ซึ่งต่างจากคณะบริหารทั่วไปคือ คณะเรานำการบริหารมาผสมกับอักษรศาสตร์ภาษาญี่ปุ่น และสาขานี้สามารถสร้างทั้งษะทั้งสองที่พี่อ๋อมต้องการได้ด้วย ส่วนพี่ไม้สักเรียนจบสายวิทย์คณิตจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เรียนอยู่ชั้นปี 1 ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และตัดสินใจมาเรียนคอร์สระยะสั้นที่ ABK College ด้วยเหตุผลว่า จริงๆแล้วพี่ไม้สักถนัดภาษาอังกฤษเป็นหลัก และคิดว่าหากเราได้เพิ่มอีกภาษาจะทำให้เราสามารถยกระดับตัวเองและมีโอกาสในการทำงานมากขึ้น จึงเลือกเรียนภาษาญี่ปุ่นและมาเรียนทีนี่ แม้ว่าพี่ไม้สักจะไม่มีความรู้ด้านภาษาญี่ปุ่นเลย แต่ที่นี่มีการปรับพื้นฐานให้ ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าไม่มีพื้นฐานแล้วจะมาเรียนที่นี่ไม่ได้ สำหรับสาขาวิชานี้เป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต(บริหารธุรกิจญี่ปุ่น) เรียน 4 ปี สาขาของเราเน้นทั้งการสื่อสารภาษาญี่ปุ่นที่สามารถใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ และมีความรู้ความสามารถด้านการบริหารจัดการองค์กร การเงินและการลงทุน การตลาด กฎหมายทางธุรกิจ การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ทำให้สามารถนำจุดแข็งของระบบงานแบบญี่ปุ่นไปประยุกต์ใช้ในองค์กรได้
วันแรกของ ABK College จะมีการสอบเพื่อวัดระดับน้องๆว่า น้องๆอยู่ในคลาสไหน สำหรับพี่อ๋อมอยู่ที่คลาส B2 และพี่ไม้สัก อยู่คลาส B3 ถัดจากพี่อ๋อมเลย คลาส B จะเป็นคลาสกลางๆที่เลยพื้นฐานขึ้นมาแต่ก็ไม่ยาก เช่น การเรียนตัวคันจิ การเรียนไวยกรณ์ ภาษาญี่ปุ่นในชีวิตประจำวัน เมื่อพี่บิวลองมาแอบดูในห้องเรียนแล้วเห็นชัดๆเลยว่า อาจารย์ใช้ภาษาญี่ปุ่นสอนจริงๆ นักเรียนก็ได้ฝึกออกเสียงตามอาจารย์ได้ดีเช่นกัน และพี่บิวขอกระซิบข่าวดีสำหรับน้องๆที่สนใจมาเรียนที่ญี่ปุ่น คือ ที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่นมีทุนต่างๆคอยซัพพอร์ทน้องๆด้วย อย่างพี่อ๋อมได้รางวัลชนะเลิศจากการประกวดสุนทรพจน์ภาษาญี่ปุ่นของมหาวิทยาลัยจึงได้รับทุนมาเรียนที่ ABK College ฟรี 2 เดือนพร้อมที่พักด้วย
แน่นอนว่าเรียนภาษากับเจ้าของภาษาย่อมดีที่สุด และบรรยากาศของที่นี่ทั้งการเรียน การใช้ชีวิต พี่บิวก็ได้พาไปดูทุกตารางนิ้วแล้ว น้องๆเห็นใช่ไหมว่าที่นี่ทั้งสะอาด เป็นระเบียบ และน่าอยู๋มากๆ สำหรันน้องๆที่กำลังมองหาสถาบันสำหรับเรียนภาษาญี่ปุ่น เข้ามาที่สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่นได้เลย เพราะที่นี่มีความญี่ปุ่นมากมายที่พร้อมจะมอบให้น้องๆ และน้องๆอาจได้รับทุนไปเรียนต่อที่ ABK College ที่ประเทศญี่ปุ่นแบบพี่อ๋อมก็ได้