"3 สิ่งที่นักนิเทศศาสตร์ยุคใหม่ต้องมีเพื่อเป็น นักสื่อสารการตลาดมืออาชีพในยุคดิจิทัล" โดยคณบดี คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม : Exclusive Talk
คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุมเราสร้างนักศึกษาให้มีพื้นฐานเป็น “นักสื่อสารการตลาดมืออาชีพในยุคดิจิทัล” ในการที่จะเป็นนักสื่อสารได้ต้องเป็นคนที่มีวิธีคิดที่ดี มีกระบวนการทางความคิดที่ดี สามารถคิดเชิงสร้างสรรค์ได้ เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมเราลงลึกการสอนทุกขั้นตอนจนกว่าจะออกมาผลงานหนึ่งชิ้นงาน
โดยมีรายวิชาที่เน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์แยกมาโดยเฉพาะ 1 วิชา โดยนักศึกษาปี 1 ทุกคนจะต้องเรียนวิชานี้เพื่อปรับกระบวนการทางความคิด สามารถคิดนอกกรอบได้ คิดสร้างสรรค์ได้ และมีการลงลึกในรายวิชาการสื่อสาร เพื่อสอนให้เด็กสามารถสื่อสารได้มี ไม่ว่าจะเป็นการพูด การเขียน ที่สำคัญเราสอนให้นักศึกษาสามารถสื่อสารด้วยภาพได้ เน้นการสอนโดยลงมือปฏิบัติจริง สามารถใช้ Digital tool อย่างเช่น Adobe Photoshop หรือ Adobe Illustrator ทำให้นักศึกษาสามารถสื่อสารแนวความคิดตัวเองได้อย่างอิสระผ่านสื่อไม่ว่าจะเป็น Mind Map, Concept board หรือ Storyboard เรายังเสริมความรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิทัล อัพเดตข้อมูลการสอนจากสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้นในเมื่อนักศึกษาเราสามารถสร้างสรรค์งานได้แล้ว ผมจึงคิดต่อยอดว่าเมื่อนักศึกษาเราสามารถผลิตผลงานได้ ผลงานของเขาต้องสามารถขายได้จริง เราจึงมีรายวิชาด้านการตลาด ประกอบกับความรู้ด้านธุรกิจ เพื่อปลูกฝังเป็นกระบวนการคิดให้นักศึกษาเมื่อเขาก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัยสู่โลกของการทำงานจริง เขาต้องเข้าใจเรื่องสื่อดิจิทัลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสื่อด้านการสื่อสารเรื่องของโซเชียลมีเดียต่างๆ เสิร์ชเอนจิน (search engine) แม้กระทั่งซอร์ฟแวร์ต่างๆ ในการช่วยผลิตผลงาน
“มหาวิทยาลัยศรีปทุม” เราเชื่อเรื่องการเรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง และเห็นของจริง การนำมืออาชีพในวงการเข้ามาถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ ทักษะต่างๆ เพราะว่าโลกของการทำงานจริงแตกต่างจากการเรียน เราต้องการนำความรู้ต่างๆ เข้ามาสอดแทรกในเนื้อหาการเรียน พานักศึกษาออกไปทัศนะศึกษาได้สัมผัสกับบรรยากาศการทำงานของจริง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ความพร้อมของอุปกรณ์หรือห้องเรียนก็ไม่ต้องกังวล เราใช้อุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัยตามมาตราฐานของอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็น ฮาร์ดแวร์ ซอร์ฟแวร์ เราต้องการให้นักศึกษาเดินออกจากรั้วมหาวิทยาลัยสามารถเข้าไปทำงานได้ทันที เราเตรียมความพร้อมนักศึกษาเรื่องของการสหกิจศึกษา นักศึกษาจะต้องออกไปทำงานจริง 3 เดือน มีการออกแบบโครงงานร่วมกัน ระหว่างนักศึกษา นายจ้าง และอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์จริงในการทำงาน นอกจากนั้นเราใส่ใจเรื่องการดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิด นักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยศรีปทุมจะต้องมีทั้งทักษะการทำงาน และทักษะชีวิต เพราะทุกวันนี้เก่งอย่างเดียวไม่พอ จะต้องเป็นคนดีด้วย
“สาขาศิลปะการแสดง” เราเน้นสร้างตัวจริงในวงการการแสดงที่สามารถทำงานได้แบบ 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นงานเบื้องหน้าหรืองานเบื้องหลัง และงานต่างๆ ที่อยู่ในองค์ประกอบของวงการบันเทิง สาเหตุที่เราทำแบบนี้ เพราะเราเชื่อและเข้าใจว่าระหว่างทางไปสู่การเป็น สตาร์ หรือซุปเปอร์สตาร์ ไม่ใช่ว่าจะเก่งอย่างเดียว จะต้องมีโอกาส มีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาเราสามารถอยู่ในวงการได้นาน สามารถทำงานหรือเข้าใจทุกๆ กระบวนการทำงานของทุกตำแหน่ง อาจารย์ของเราทุกคนพร้อมผลักดันให้นักศึกษาสามารถมีงานทำตั้งแต่ยังเรียนอยู่ เราเชื่อว่าถ้านักศึกษาได้ออกไปทำงานจริง เขาจะมีประสบการณ์ไวกว่าคนอื่น การมีตัวตนในวงการขณะที่ยังเรียนอยู่ สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้เขาสามารถเดินต่อไปได้อย่าง ไม่ท้อถอย และประสบความสำเร็จในชีวิตของการทำงานในอนาคต
“สาขาการออกแบบแฟชั่น” เราต้องการสร้างสาขาการออกแบบแฟชั่นที่แตกต่าง สาขาการออกแบบแฟชั่น ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม นอกจากเราให้ความสำคัญในเรื่องการออกแบบแฟชั่นแบบคอนเซ็ปชวลแล้ว ยังให้ความสำคัญในด้านอื่นๆ การบริหารจัดการการตลาด การทำแฟชั่นเชิงธุรกิจ เพื่อที่จะขยายโอกาสงานของนักศึกษาให้กว้างมากขึ้น นักศึกษาสามารถเป็นได้ตั้งแต่เจ้าของแบนด์ ดีไซเนอร์ทางแฟชั่น สไตล์ลิส หรือเข้าใจกระบวนการทำงานที่เรียกว่า “การซอร์สซิงสินค้า” เพื่อมาเปิดเว็บไซต์ขายสินค้าทางแฟชั่นต่างๆ ถ้าจะสรุปง่ายๆคือสามารทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานแฟชั่นทั้งหมด ผมเชื่อว่าหลักสูตรนี้จะเปิดโอกาสให้นักศึกษามากขึ้น ให้สามารถก้าวเข้าไปสู่อุตสาหกรรมทางแฟชั่นที่หลากหลายในอนาคต
“สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล” นอกจากจะได้เรียนศาสตร์ทางด้านภาพยนตร์แล้ว ยังได้เรียนศาสตร์ทางด้านการผลิตวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ด้วย เพราะว่าทุกวันนี้ทีวีดิจิทัลเป็นอุตสาหกรรมหนึ่ง ที่มีความสำคัญมากๆ เราต้องการสร้างนักศึกษาของเราให้ออกไปทำงานได้อย่างไฮบริด เพื่อเปิดโอกาสในการทำงานให้กว้างขึ้นเพื่อรองรับตลาดงานในอนาคต
“สาขาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์” เราต้องการสร้างนักศึกษาให้มีความเป็นมืออาชีพในการทำงาน เริ่มต้นจากกระบวนการทางความคิดให้มีการคิดเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่ Mind map และนำไอเดียนั้นๆ ไปวิเคราะห์และตีความออกมาเป็น Storyboard ผมย้ำกับอาจารย์ประจำสาขาวิชาเสมอว่า ต้องใส่ใจเรื่องการทำงานทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น Pre-production, Production และ Post-production ให้ดี ในส่วนของกระบวนการทำงาน เราเชื่อเรื่องการทำงานอย่างมาตราฐานอุตสาหกรรมจริง ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือที่เป็นมาตราฐานอุตสาหกรรมจริง ใช้ซอร์ฟแวร์ต่างๆ ที่เป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมจริง ทำให้นักศึกษาได้มีโอกาสสัมผัสการทำงานใกล้เคียงของจริงมากที่สุด จากนั้นเด็กต้องเข้าใจเรื่องรูปแบบและการตลาดของดิจิทัลทีวี เพราะปัจจุบันรูปแบบเปลี่ยนแปลงไปมาก และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักศึกษาจะต้องเข้าใจเรื่องของอินเทอร์แอคทีฟทีวี เข้าใจเรื่องของอีคอมเมิร์ส ต้องเข้าใจธรรมชาติของผู้ชม เพื่อที่จะสามารถผสมผสานองค์ความรู้ต่างๆ สามารถทำชิ้นงานที่ตอบโจทย์ในยุคปัจจุบัน ณ ปัจจุบันนี้เราต้องการสร้างนักศึกษาที่สามารถสร้างรายการที่สร้างสรรค์และแตกต่างได้ และนอกจากนั้นต้องเข้าใจเรื่องของธุรกิจเรื่องการตลาดเพื่อจะสร้างรายการที่ดี และขายได้ด้วย หลักสูตรของเราจึงมีรายวิชารองรับที่จะสอนนักศึกษาให้เข้าใจเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด เพราะว่าวันนี้คนที่จบออกไปต้องเป็นคนที่เก่งในหลากหลายมิติ เพื่อที่จะรองรับการแข่งขันในตลาดยุคปัจจุบัน
โดยมีรายวิชาที่เน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์แยกมาโดยเฉพาะ 1 วิชา โดยนักศึกษาปี 1 ทุกคนจะต้องเรียนวิชานี้เพื่อปรับกระบวนการทางความคิด สามารถคิดนอกกรอบได้ คิดสร้างสรรค์ได้ และมีการลงลึกในรายวิชาการสื่อสาร เพื่อสอนให้เด็กสามารถสื่อสารได้มี ไม่ว่าจะเป็นการพูด การเขียน ที่สำคัญเราสอนให้นักศึกษาสามารถสื่อสารด้วยภาพได้ เน้นการสอนโดยลงมือปฏิบัติจริง สามารถใช้ Digital tool อย่างเช่น Adobe Photoshop หรือ Adobe Illustrator ทำให้นักศึกษาสามารถสื่อสารแนวความคิดตัวเองได้อย่างอิสระผ่านสื่อไม่ว่าจะเป็น Mind Map, Concept board หรือ Storyboard เรายังเสริมความรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิทัล อัพเดตข้อมูลการสอนจากสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างที่ผมกล่าวไปข้างต้นในเมื่อนักศึกษาเราสามารถสร้างสรรค์งานได้แล้ว ผมจึงคิดต่อยอดว่าเมื่อนักศึกษาเราสามารถผลิตผลงานได้ ผลงานของเขาต้องสามารถขายได้จริง เราจึงมีรายวิชาด้านการตลาด ประกอบกับความรู้ด้านธุรกิจ เพื่อปลูกฝังเป็นกระบวนการคิดให้นักศึกษาเมื่อเขาก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัยสู่โลกของการทำงานจริง เขาต้องเข้าใจเรื่องสื่อดิจิทัลทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสื่อด้านการสื่อสารเรื่องของโซเชียลมีเดียต่างๆ เสิร์ชเอนจิน (search engine) แม้กระทั่งซอร์ฟแวร์ต่างๆ ในการช่วยผลิตผลงาน
“มหาวิทยาลัยศรีปทุม” เราเชื่อเรื่องการเรียนกับตัวจริง ประสบการณ์จริง และเห็นของจริง การนำมืออาชีพในวงการเข้ามาถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ ทักษะต่างๆ เพราะว่าโลกของการทำงานจริงแตกต่างจากการเรียน เราต้องการนำความรู้ต่างๆ เข้ามาสอดแทรกในเนื้อหาการเรียน พานักศึกษาออกไปทัศนะศึกษาได้สัมผัสกับบรรยากาศการทำงานของจริง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ความพร้อมของอุปกรณ์หรือห้องเรียนก็ไม่ต้องกังวล เราใช้อุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัยตามมาตราฐานของอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็น ฮาร์ดแวร์ ซอร์ฟแวร์ เราต้องการให้นักศึกษาเดินออกจากรั้วมหาวิทยาลัยสามารถเข้าไปทำงานได้ทันที เราเตรียมความพร้อมนักศึกษาเรื่องของการสหกิจศึกษา นักศึกษาจะต้องออกไปทำงานจริง 3 เดือน มีการออกแบบโครงงานร่วมกัน ระหว่างนักศึกษา นายจ้าง และอาจารย์ที่ปรึกษา เพื่อให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์จริงในการทำงาน นอกจากนั้นเราใส่ใจเรื่องการดูแลนักศึกษาอย่างใกล้ชิด นักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยศรีปทุมจะต้องมีทั้งทักษะการทำงาน และทักษะชีวิต เพราะทุกวันนี้เก่งอย่างเดียวไม่พอ จะต้องเป็นคนดีด้วย
“สาขาศิลปะการแสดง” เราเน้นสร้างตัวจริงในวงการการแสดงที่สามารถทำงานได้แบบ 360 องศา ไม่ว่าจะเป็นงานเบื้องหน้าหรืองานเบื้องหลัง และงานต่างๆ ที่อยู่ในองค์ประกอบของวงการบันเทิง สาเหตุที่เราทำแบบนี้ เพราะเราเชื่อและเข้าใจว่าระหว่างทางไปสู่การเป็น สตาร์ หรือซุปเปอร์สตาร์ ไม่ใช่ว่าจะเก่งอย่างเดียว จะต้องมีโอกาส มีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้นเราต้องเตรียมความพร้อมให้นักศึกษาเราสามารถอยู่ในวงการได้นาน สามารถทำงานหรือเข้าใจทุกๆ กระบวนการทำงานของทุกตำแหน่ง อาจารย์ของเราทุกคนพร้อมผลักดันให้นักศึกษาสามารถมีงานทำตั้งแต่ยังเรียนอยู่ เราเชื่อว่าถ้านักศึกษาได้ออกไปทำงานจริง เขาจะมีประสบการณ์ไวกว่าคนอื่น การมีตัวตนในวงการขณะที่ยังเรียนอยู่ สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่หล่อหลอมให้เขาสามารถเดินต่อไปได้อย่าง ไม่ท้อถอย และประสบความสำเร็จในชีวิตของการทำงานในอนาคต
“สาขาการออกแบบแฟชั่น” เราต้องการสร้างสาขาการออกแบบแฟชั่นที่แตกต่าง สาขาการออกแบบแฟชั่น ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม นอกจากเราให้ความสำคัญในเรื่องการออกแบบแฟชั่นแบบคอนเซ็ปชวลแล้ว ยังให้ความสำคัญในด้านอื่นๆ การบริหารจัดการการตลาด การทำแฟชั่นเชิงธุรกิจ เพื่อที่จะขยายโอกาสงานของนักศึกษาให้กว้างมากขึ้น นักศึกษาสามารถเป็นได้ตั้งแต่เจ้าของแบนด์ ดีไซเนอร์ทางแฟชั่น สไตล์ลิส หรือเข้าใจกระบวนการทำงานที่เรียกว่า “การซอร์สซิงสินค้า” เพื่อมาเปิดเว็บไซต์ขายสินค้าทางแฟชั่นต่างๆ ถ้าจะสรุปง่ายๆคือสามารทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับงานแฟชั่นทั้งหมด ผมเชื่อว่าหลักสูตรนี้จะเปิดโอกาสให้นักศึกษามากขึ้น ให้สามารถก้าวเข้าไปสู่อุตสาหกรรมทางแฟชั่นที่หลากหลายในอนาคต
“สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล” นอกจากจะได้เรียนศาสตร์ทางด้านภาพยนตร์แล้ว ยังได้เรียนศาสตร์ทางด้านการผลิตวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ด้วย เพราะว่าทุกวันนี้ทีวีดิจิทัลเป็นอุตสาหกรรมหนึ่ง ที่มีความสำคัญมากๆ เราต้องการสร้างนักศึกษาของเราให้ออกไปทำงานได้อย่างไฮบริด เพื่อเปิดโอกาสในการทำงานให้กว้างขึ้นเพื่อรองรับตลาดงานในอนาคต
“สาขาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์” เราต้องการสร้างนักศึกษาให้มีความเป็นมืออาชีพในการทำงาน เริ่มต้นจากกระบวนการทางความคิดให้มีการคิดเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่ Mind map และนำไอเดียนั้นๆ ไปวิเคราะห์และตีความออกมาเป็น Storyboard ผมย้ำกับอาจารย์ประจำสาขาวิชาเสมอว่า ต้องใส่ใจเรื่องการทำงานทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น Pre-production, Production และ Post-production ให้ดี ในส่วนของกระบวนการทำงาน เราเชื่อเรื่องการทำงานอย่างมาตราฐานอุตสาหกรรมจริง ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือที่เป็นมาตราฐานอุตสาหกรรมจริง ใช้ซอร์ฟแวร์ต่างๆ ที่เป็นมาตรฐานของอุตสาหกรรมจริง ทำให้นักศึกษาได้มีโอกาสสัมผัสการทำงานใกล้เคียงของจริงมากที่สุด จากนั้นเด็กต้องเข้าใจเรื่องรูปแบบและการตลาดของดิจิทัลทีวี เพราะปัจจุบันรูปแบบเปลี่ยนแปลงไปมาก และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นักศึกษาจะต้องเข้าใจเรื่องของอินเทอร์แอคทีฟทีวี เข้าใจเรื่องของอีคอมเมิร์ส ต้องเข้าใจธรรมชาติของผู้ชม เพื่อที่จะสามารถผสมผสานองค์ความรู้ต่างๆ สามารถทำชิ้นงานที่ตอบโจทย์ในยุคปัจจุบัน ณ ปัจจุบันนี้เราต้องการสร้างนักศึกษาที่สามารถสร้างรายการที่สร้างสรรค์และแตกต่างได้ และนอกจากนั้นต้องเข้าใจเรื่องของธุรกิจเรื่องการตลาดเพื่อจะสร้างรายการที่ดี และขายได้ด้วย หลักสูตรของเราจึงมีรายวิชารองรับที่จะสอนนักศึกษาให้เข้าใจเรื่องเหล่านี้ทั้งหมด เพราะว่าวันนี้คนที่จบออกไปต้องเป็นคนที่เก่งในหลากหลายมิติ เพื่อที่จะรองรับการแข่งขันในตลาดยุคปัจจุบัน