กายภาพบำบัด
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
Summary
8.86
รีวิวกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 ดำเนินการเรียนการสอนทั้งในภาคปฏิบัติและภาคทฤษฎี ซึ่งจะจัดการสอนทั้งหมดอยู่ภายในมหาวิทยาลัย และประกอบด้วย 4 สาขาวิชา คือ
1.สาขาวิชากายภาพบำบัดพื้นฐาน
2.สาขาวิชากายภาพบำบัดทางกระดูกและข้อ
3.สาขาวิชากายภาพบำบัดทางระบบประสาทและพัฒนาการบกพร่องในเด็ก
4.สาขาวิชากายภาพบำบัดทางระบบหัวใจและหลอดเลือด
หลักสูตรกายภาพบำบัด ได้มีการปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่องทุก 5 ปี และได้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับปณิธานของมหาวิทยาลัย ที่ต้องการให้บัณฑิตเรียนรู้เพื่อรับใช้สังคม และวิสัยทัศน์ของคณะ ที่มุ่งให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทักษะวิชาชีพกายภาพบำบัด ในปีที่ 1 เทอม 1 น้องๆ จะเรียนในรายวิชาหมวดศึกษาทั่วไปด้านสังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์, วิชามูลฐานวิชาชีพกายภาพบำบัด เพื่อให้เรียนรู้เกี่ยวกับวิชาชีพเบื้องต้น นอกจากนี้ระหว่างการปิดเทอมรนั้นยังมีกิจกรรมให้ไปออกค่ายอาสาสมัครช่วยงานในแผนกกายภาพบำบัดตามโรงพยาบาลต่างๆ ในเทอม 2 ยังคงเรียนในหมวดศึกษาทั่วไป ร่วมกับการเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์ ที่เน้นด้านระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ มีการผ่าร่างอาจารย์ใหญ่ ในการเรียนภาคปฏิบัติทุกรายวิชา จะแบ่งน้องๆ ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 30 คนมีอาจารย์ผู้สอน 3 คน เรียนที่นี่จะได้ฝึกซ้อมจนเกิดความชำนาญ เมื่อเข้าสู่การเรียนในปีที่ 2 จะได้เรียนวิชากายวิภาคศาสตร์ของระบบอื่น เริ่มเข้าสู่การเรียนในวิชาชีพเพิ่มขึ้น มีการฝึกงานทางกายภาพบำบัด ซึ่งเป็นการให้การรักษาทางกายภาพบำบัดแก่ผู้ป่วยในชุมชนรอบมหาวิทยาลัย โดยมีอาจารย์จากคณะเป็นผู้ดูแล ในเทอม 2 จะได้เรียนวิชาฝึกปฏิบัติที่เกี่ยวกับการให้การรักษาผู้ป่วยทางกายภาพบำบัด เช่น การออกกำลังกายเพื่อการบำบัด การนวดเพื่อการรักษา การใช้เครื่องมือไฟฟ้าทางกายภาพบำบัด มีการเรียนภาษาอังกฤษด้านวิชาชีพ เพื่อให้สามารถอ่านตำราภาษาอังกฤษและเข้าใจศัพท์ทางวิชาชีพกายภาพบำบัดด้วย เมื่อขึ้นชั้นปีที่ 3 จะเรียนการรักษาทางกายภาพบำบัดที่ซับซ้อนมากขึ้น จะได้เรียนรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยด้านระบบประสาท และยังมีการฝึกงานทางกายภาพบำบัด ซึ่งเป็นการฝึกงานในโรงพยาบาลใกล้มหาวิทยาลัยหรือใกล้บ้าน เพื่อนำความรู้ที่เรียนมาไปฝึกปฏิบัติกับผู้ป่วยจริง และมีประสบการณ์เกี่ยวกับผู้ป่วยประเภทต่าง ๆ มาใช้ในการเรียนวิชาที่สูงขึ้นต่อไป ส่วนในปีที่ 3 เทอม 2 เป็นการเรียนเกี่ยวกับผู้ป่วยในแต่ละสาขาหลักของกายภาพบำบัด ระหว่างปิดเทอมของปี3 น้องๆ จะได้ไปฝึกงานเพื่อความพร้อมในการเรียนด้านวิชาชีพที่ซับซ้อนมากขึ้นในชั้นปีถัดไป และสุดท้ายในชั้นปีที่ 4 จะเรียนเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยที่ซับซ้อนมากขึ้น และการฝึกปฏิบัติงานกับผู้ป่วยจริงในภาคการศึกษาสุดท้าย
จะเห็นได้ว่าการเรียนวิชาชีพกายภาพบำบัดเป็นการเรียนที่ประกอบไปด้วยภาคทฤษฎีและปฏิบัติ รวมถึงการฝึกปฏิบัติจริงกับผู้ป่วย นักศึกษาที่จะศึกษาวิชาชีพกายภาพบำบัดควรเป็นผู้ทีมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ชอบการพบปะผู้คน มีความอดทนและความมุ่งมั่นในการทำงานภายใต้สภาวะความเครียดของผู้ป่วยและญาติ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์หาปัญหาและเสนอแนวทางแก้ไขให้กับผู้ป่วย รวมถึงมีความคิดสร้างสรรค์ในการประยุกต์ท่าทางในชีวิตประจำวันหรือเครื่องมือต่างๆ ในการช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น
จุดเด่นของที่นี่ คืออะไร
มุ่งผลิตนักกายภาพบำบัด ผู้ทำหน้าที่ตรวจวินิจฉัย รักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายของผู้ป่วยที่มีปัญหาทางการเคลื่อนไหว อันเนื่องมาจากโครงสร้างร่างกาย ตลอดจนส่งเสริมสุขภาพและป้องกันปัญหาสุขภาพในคนทุกวัย โดยมีหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ โดยส่งเสริมให้นักศึกษาเข้าใจหลักการทางทฤษฎีและเรียนรู้ทักษะการปฏิบัติทาง คลินิกทั้งในห้องปฏิบัติการและจากการฝึกงานจริง นอกจากนี้ยังเสริมหลักสูตรเพิ่มเติมให้นักศึกษาตามความถนัด เช่น กายภาพบำบัดในเด็กพิการการออกแบบผลิตภัณฑ์ทางกายภาพบำบัด กายภาพบำบัดทางการกีฬาการส่งเสริมสุขภาพและความงาม
จบมาทำงานอะไร
- นักกายภาพบำบัดประจำโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน
- ธุรกิจส่วนตัว เปิดคลินิกกายภาพบำบัด
- นักกายภาพบำบัด ในสถานออกกำลังกาย
- สถานเสริมความงาม หรือประจำทีมกีฬา
สมัครเรียนทำอย่างไร
ระบบรับตรง รอบก่อนแอดมิชชัน ครั้งที่1 (ธันวาคม)
- สำเร็จหรือกำลังศึกษาชั้น ม.6 แผนการเรียนวิทย์-คณิต
- มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX) ไม่ต่ำกว่า 2.50
- ผ่านการสอบข้อเขียนและการสอบสัมภาษณ์ของทางมหาวิทยาลัย
- สมัครผ่านเว็บไซต์ http://admission.hcu.ac.th
ระบบรับตรง รอบก่อนแอดมิชชัน ครั้งที่2 (มีนาคม)
- สำเร็จหรือกำลังศึกษาชั้นม.6 แผนการเรียนวิทย์-คณิต
- มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX) ไม่ต่ำกว่า 2.50
- มีผลการสอบวิชา GAT และPAT2 (ความถนัดวิชาวิทยาศาสตร์)
- ผ่านการสอบข้อเขียนและการสอบสัมภาษณ์ของทางมหาวิทยาลัย
- สมัครผ่านเว็บไซต์ http://admission.hcu.ac.th
ระบบรับตรง รอบหลังแอดมิชชัน (มิถุนายน)
- สำเร็จหรือกำลังศึกษาชั้น ม.6 แผนการเรียนวิทย์-คณิต
- มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX) ไม่ต่ำกว่า 2.50
- มีผลการสอบ O-NET, GAT และPAT2 (ความถนัดวิชาวิทยาศาสตร์)
- ผ่าการสอบสัมภาษณ์ของทางมหาวิทยาลัย
- สมัครผ่านเว็บไซต์ http://admission.hcu.ac.th
ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร
479, 100 บาท
รายละเอียดค่าใช้จ่าย
49, 200 - 53, 950 บาท/เทอม
กายภาพบำบัด
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
ผลงานของสาขา
(ของนักศึกษาอาจารย์และศิษย์เก่า)
9.00
ความพร้อมของห้องปฎิบัติการและอุปกรณ์การเรียน
9.00
ความร่วมมือกับองค์กรภายนอก
9.00
สภาพแวดล้อมของสถานที่เรียน
8.50
ได้รับการรับรองจาก
สกอ. สภาวิชาชีพ.
Summary
U-Review Score
8.86
เน้นด้านการคิดวิเคราะห์ความผิดปกติของการเคลื่อนไหว ในการจัดการเรียนการสอน แบ่งตามกลุ่มผู้ป่วยออกเป็นกลุ่มกระดูกและกล้ามเนื้อ กลุ่มระบบประสาท กลุ่มระบบหายใจและการไหลเวียนโลหิต และกลุ่มเด็ก มีการฝึกงานกับผู้ป่วยจริงไม่ต่ำกว่า 1,000 ชั่วโมง ในแหล่งการฝึกที่หลากหลาย เช่น ชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลทุกระดับ สโมสรกีฬา สถานเสริมความงาม
วิเคราะห์ข้อมูลและประเมินคะแนน U-Review Score โดยฝ่ายวิชาการ upbean.com
หลักเกณฑ์การให้คะแนน
ชื่อคณะ
กายภาพบำบัด (Faculty of Physical Therapy)
ชื่อสาขา
กายภาพบำบัด (Physical Therapy)
ชื่อปริญญา
วท.บ. (กายภาพบำบัด) (วิทยาศาสตร์บัณฑิต)
รายละเอียด
เน้นด้านการคิดวิเคราะห์ความผิดปกติของการเคลื่อนไหว ในการจัดการเรียนการสอน แบ่งตามกลุ่มผู้ป่วยออกเป็นกลุ่มกระดูกและกล้ามเนื้อ กลุ่มระบบประสาท กลุ่มระบบหายใจและการไหลเวียนโลหิต และกลุ่มเด็ก มีการฝึกงานกับผู้ป่วยจริงไม่ต่ำกว่า 1,000 ชั่วโมง ในแหล่งการฝึกที่หลากหลาย เช่น ชุมชนโดยรอบมหาวิทยาลัย โรงพยาบาลทุกระดับ สโมสรกีฬา สถานเสริมความงาม
เนื้อหาวิชา
วิชาที่ต้องเรียน : มีการเรียนเกี่ยวกับพื้นฐานทางการแพทย์ เช่น กายวิภาคศาสตร์ สรีรวิทยา เพื่อต่อยอดเข้าสู่วิชาวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหว การตรวจประเมินทางกายภาพบำบัด การให้การรักษาทางกายภาพบำบัด เช่น การนวด การใช้เครื่องมือทางกายภาพบำบัด การใช้เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า การออกกำลังกายเพื่อการบำบัด การขยับ ดัด ดึงข้อต่อ ก่อนจะเข้าสู่รายวิชาทางคลินิกตามกลุ่มของผู้ป่วย มีรายวิชาบูรณาการ เพื่อฝึกกระบวนการคิดทางคลินิค มีการออกไปฝึกงานตามสถานพยาบาลเป็นระยะอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 1 ถึง ปี 4
คุณสมบัติ
จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา แผนการเรียนวิทย์-คณิตฯ
สิ่งใหม่ จุดเด่น จุดแตกต่าง
เป็นวิชาชีพสายวิทยาศาสตร์สุขภาพ ทำงานเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ครอบคลุมตั้งแต่วัยทารก เด็ก วัยทำงาน และผู้สูงอายุ เช่น เด็กพัฒนาการช้า ผู้ที่มีอาการปวดคอ ปวดหลัง อัมพาต เน้นเรื่องการใช้หัตถการและการออกกำลังกาย มีใบประกอบวิชาชีพ สามารถประกอบอาชีพอิสระได้
แผนการเรียน
วิทย์ - คณิต
เทียบเท่า (กศน.)
สำเร็จการศึกษา ม.6
นานาชาติ
สำเร็จการศึกษานานาชาติ
ค่าเทอม
รายเทอม : 50,000-70,000 บาท
ตลอดหลักสูตร : 480,000 บาท
ได้รับการรับรองจาก
สกอ. สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
สภาวิชาชีพ.
อาชีพ
- นักกายภาพบำบัดประจำโรงพยาบาล สถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน
- นักกายภาพอิสระ/ เปิดคลินิกส่วนตัว
- นักกายภาพบำบัดประจำทีมกีฬา สถานออกกำลังกาย สถานเสริมความงาม
- ผู้แทนขายอุปกรณ์การแพทย์
- อาจารย์/ นักวิจัย
เส้นทางอาชีพและความก้าวหน้า
หลังจบการศึกษา ต้องสอบผ่านใบประกอบวิชาชีพ สามารถประกอบอาชีพอิสระได้
โอกาสงานในอาเซียน
เป็นหนึ่งในอาชีพเสรีในอาเซียน
บุคลิกภาพที่เหมาะสมกับสาขานี้
สุขภาพแข็งแรง คล่องแคล่ว มีจิตเมตตา ชอบคิดวิเคราะห์ ชอบทำงานร่วมกับคนอื่น
เบอร์โทร
0-2312-6300-79 ต่อ 1162, 1172 โทรสาร 0-2312-6413
กายภาพบำบัด
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
รีวิวกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 ดำเนินการเรียนการสอนทั้งในภาคปฏิบัติและภาคทฤษฎี ซึ่งจะจัดการสอนทั้งหมดอยู่ภายในมหาวิทยาลัย และประกอบด้วย 4 สาขาวิชา คือ
1.สาขาวิชากายภาพบำบัดพื้นฐาน
2.สาขาวิชากายภาพบำบัดทางกระดูกและข้อ
3.สาขาวิชากายภาพบำบัดทางระบบประสาทและพัฒนาการบกพร่องในเด็ก
4.สาขาวิชากายภาพบำบัดทางระบบหัวใจและหลอดเลือด
หลักสูตรกายภาพบำบัด ได้มีการปรับปรุงหลักสูตรอย่างต่อเนื่องทุก 5 ปี และได้ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับปณิธานของมหาวิทยาลัย ที่ต้องการให้บัณฑิตเรียนรู้เพื่อรับใช้สังคม และวิสัยทัศน์ของคณะ ที่มุ่งให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทักษะวิชาชีพกายภาพบำบัด ในปีที่ 1 เทอม 1 น้องๆ จะเรียนในรายวิชาหมวดศึกษาทั่วไปด้านสังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์, วิชามูลฐานวิชาชีพกายภาพบำบัด เพื่อให้เรียนรู้เกี่ยวกับวิชาชีพเบื้องต้น นอกจากนี้ระหว่างการปิดเทอมรนั้นยังมีกิจกรรมให้ไปออกค่ายอาสาสมัครช่วยงานในแผนกกายภาพบำบัดตามโรงพยาบาลต่างๆ ในเทอม 2 ยังคงเรียนในหมวดศึกษาทั่วไป ร่วมกับการเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์ ที่เน้นด้านระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ มีการผ่าร่างอาจารย์ใหญ่ ในการเรียนภาคปฏิบัติทุกรายวิชา จะแบ่งน้องๆ ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 30 คนมีอาจารย์ผู้สอน 3 คน เรียนที่นี่จะได้ฝึกซ้อมจนเกิดความชำนาญ เมื่อเข้าสู่การเรียนในปีที่ 2 จะได้เรียนวิชากายวิภาคศาสตร์ของระบบอื่น เริ่มเข้าสู่การเรียนในวิชาชีพเพิ่มขึ้น มีการฝึกงานทางกายภาพบำบัด ซึ่งเป็นการให้การรักษาทางกายภาพบำบัดแก่ผู้ป่วยในชุมชนรอบมหาวิทยาลัย โดยมีอาจารย์จากคณะเป็นผู้ดูแล ในเทอม 2 จะได้เรียนวิชาฝึกปฏิบัติที่เกี่ยวกับการให้การรักษาผู้ป่วยทางกายภาพบำบัด เช่น การออกกำลังกายเพื่อการบำบัด การนวดเพื่อการรักษา การใช้เครื่องมือไฟฟ้าทางกายภาพบำบัด มีการเรียนภาษาอังกฤษด้านวิชาชีพ เพื่อให้สามารถอ่านตำราภาษาอังกฤษและเข้าใจศัพท์ทางวิชาชีพกายภาพบำบัดด้วย เมื่อขึ้นชั้นปีที่ 3 จะเรียนการรักษาทางกายภาพบำบัดที่ซับซ้อนมากขึ้น จะได้เรียนรายวิชาที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยด้านระบบประสาท และยังมีการฝึกงานทางกายภาพบำบัด ซึ่งเป็นการฝึกงานในโรงพยาบาลใกล้มหาวิทยาลัยหรือใกล้บ้าน เพื่อนำความรู้ที่เรียนมาไปฝึกปฏิบัติกับผู้ป่วยจริง และมีประสบการณ์เกี่ยวกับผู้ป่วยประเภทต่าง ๆ มาใช้ในการเรียนวิชาที่สูงขึ้นต่อไป ส่วนในปีที่ 3 เทอม 2 เป็นการเรียนเกี่ยวกับผู้ป่วยในแต่ละสาขาหลักของกายภาพบำบัด ระหว่างปิดเทอมของปี3 น้องๆ จะได้ไปฝึกงานเพื่อความพร้อมในการเรียนด้านวิชาชีพที่ซับซ้อนมากขึ้นในชั้นปีถัดไป และสุดท้ายในชั้นปีที่ 4 จะเรียนเกี่ยวกับการรักษาผู้ป่วยที่ซับซ้อนมากขึ้น และการฝึกปฏิบัติงานกับผู้ป่วยจริงในภาคการศึกษาสุดท้าย
จะเห็นได้ว่าการเรียนวิชาชีพกายภาพบำบัดเป็นการเรียนที่ประกอบไปด้วยภาคทฤษฎีและปฏิบัติ รวมถึงการฝึกปฏิบัติจริงกับผู้ป่วย นักศึกษาที่จะศึกษาวิชาชีพกายภาพบำบัดควรเป็นผู้ทีมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ชอบการพบปะผู้คน มีความอดทนและความมุ่งมั่นในการทำงานภายใต้สภาวะความเครียดของผู้ป่วยและญาติ มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์หาปัญหาและเสนอแนวทางแก้ไขให้กับผู้ป่วย รวมถึงมีความคิดสร้างสรรค์ในการประยุกต์ท่าทางในชีวิตประจำวันหรือเครื่องมือต่างๆ ในการช่วยให้คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยดีขึ้น
จุดเด่นของที่นี่ คืออะไร
จบมาทำงานอะไร
- ธุรกิจส่วนตัว เปิดคลินิกกายภาพบำบัด
- นักกายภาพบำบัด ในสถานออกกำลังกาย
- สถานเสริมความงาม หรือประจำทีมกีฬา
สมัครเรียนทำอย่างไร
- สำเร็จหรือกำลังศึกษาชั้น ม.6 แผนการเรียนวิทย์-คณิต
- มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX) ไม่ต่ำกว่า 2.50
- ผ่านการสอบข้อเขียนและการสอบสัมภาษณ์ของทางมหาวิทยาลัย
- สมัครผ่านเว็บไซต์ http://admission.hcu.ac.th
ระบบรับตรง รอบก่อนแอดมิชชัน ครั้งที่2 (มีนาคม)
- สำเร็จหรือกำลังศึกษาชั้นม.6 แผนการเรียนวิทย์-คณิต
- มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX) ไม่ต่ำกว่า 2.50
- มีผลการสอบวิชา GAT และPAT2 (ความถนัดวิชาวิทยาศาสตร์)
- ผ่านการสอบข้อเขียนและการสอบสัมภาษณ์ของทางมหาวิทยาลัย
- สมัครผ่านเว็บไซต์ http://admission.hcu.ac.th
ระบบรับตรง รอบหลังแอดมิชชัน (มิถุนายน)
- สำเร็จหรือกำลังศึกษาชั้น ม.6 แผนการเรียนวิทย์-คณิต
- มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสม (GPAX) ไม่ต่ำกว่า 2.50
- มีผลการสอบ O-NET, GAT และPAT2 (ความถนัดวิชาวิทยาศาสตร์)
- ผ่าการสอบสัมภาษณ์ของทางมหาวิทยาลัย
- สมัครผ่านเว็บไซต์ http://admission.hcu.ac.th
ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตร
รายละเอียดค่าใช้จ่าย
กายภาพบำบัด
มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ
(ของนักศึกษาอาจารย์และศิษย์เก่า)
วิเคราะห์ข้อมูลและประเมินคะแนน U-Review Score โดยฝ่ายวิชาการ upbean.com
หลักเกณฑ์การให้คะแนน
เทียบเท่า (กศน.)
สำเร็จการศึกษา ม.6
นานาชาติ
สำเร็จการศึกษานานาชาติ
ตลอดหลักสูตร : 480,000 บาท
สภาวิชาชีพ.
- นักกายภาพอิสระ/ เปิดคลินิกส่วนตัว
- นักกายภาพบำบัดประจำทีมกีฬา สถานออกกำลังกาย สถานเสริมความงาม
- ผู้แทนขายอุปกรณ์การแพทย์
- อาจารย์/ นักวิจัย
กายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ดีไหม?
GOOGLE MAP
ข้อมูลติดต่อ