เรียนอินเตอร์อย่างไร ให้ประสบความสำเร็จ
ในโลกธุรกิจการติดต่อสื่อสารและการตกลงธุรกิจจะนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จ การสื่อสารจึงเป็นเรื่องสำคัญมากๆ อย่างหนึ่ง และประเทศไทยนั้นเศรษฐกิจของเรายังต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก การติดต่อสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษจึงมีความจำเป็นอย่างมาก ในขณะที่การศึกษาด้านภาษาอังกฤษของไทยอยู่ในระดับต่ำ จึงทำให้ดูเหมือนว่าช่างสิ้นหวังเหลือเกิน วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกการเรียนในหลักสูตรอินเตอร์ของวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่รวบรวมนักศึกษาจากเกือบ 30 ประเทศไว้ด้วยกัน มาดูกันว่านักศึกษาที่นี่เรียนกันอย่างไรให้ประสบความสำเร็จและจะทำให้เรามีความหวังขึ้นมาบ้าง
การเรียนในหลักสูตรอินเตอร์นั้นไม่ใช่การเรียนแค่ภาษาเท่านั้น แต่นักศึกษาในวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จะได้เรียนรู้และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ภาษา และศาสนาของกันและกันด้วย โดยเฉพาะนักศึกษาที่จะจบไปเป็นนักธุรกิจ จะต้องเข้าใจทุกๆ ด้านของการใช้ชีวิตบนโลกที่มีความแตกต่าง จะต้องเข้าใจว่าแต่ละชาติมีศาสนา วัฒนธรรมเป็นอย่างไร และในส่วนนั้นทางวิทยาลัยไม่ได้ให้เรียนเพียงในห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังส่งนึกศึกษาไปดูงานในต่างประเทศด้วย การเรียนในหลักสูตรอินเตอร์จึงเป็นเหมือนการเตรียมความพร้อมสู้อนาคตที่คนจะสื่อสารกันด้วยภาษาสากลมากขึ้น นักศึกษาจะได้เรียนรู้วัฒนธรรมสากล เรียนรู้การทำงานร่วมกับคนหลายชาติ หลากภาษา การเรียนหลักสูตรอินเตอร์จะทำให้เราสามารถขยายความรู้ ขยายเครือข่ายทางธุรกิจให้มากขึ้น ดร.จักรินทร์ ศรีมูล คณบดีวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จึงให้นิยามของข้อดีในการเรียนหลักสูตรอินเตอร์ว่า “เป็นการเตรียมพร้อมสู่อนาคต”
หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าการเรียนในหลักสูตรนานาชาติ หรือหลักสูตรอินเตอร์นั้นจะยากไหม เพราะในการเรียนการสอนจะต้องใช้ภาษาอังกฤษทั้งหมด ดร.จักรินทร์ ตอบข้อสงสัยในข้อนี้ว่า แรกๆ อาจจะยากนิดหนึ่ง แต่พอผ่านปี 1 ปี 2 ไปเราก็จะสามารถปรับตัวได้ และทางวิทยาลันเองก็จะมีการเรียน Pre Study เพื่อเตรียมพร้อมให้นักศึกษาก่อนเข้าเรียน “การเรียนภาษาไม่ใช่การเรียนเดือน 2 เดือนแล้วจบ มันเป็นการเรียนอย่างต่อเนื่อง” นักศึกษาเองจึงต้องฝึกฝน อย่างหนึ่งที่ทางวิทยาลัยทำเพื่อให้นักศึกษาสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่คือ การรับนักศึกษาจากต่างประเทศเกือบ 30 ประเทศเข้ามาเรียนร่วมกับนักศึกษาไทยด้วย เช่น อเมริกา อังกฤษ เยอรมันนี นิวซีแลนด์ ออสเตเรีย เนเธอร์แลนด์ เมาดีฟ ภูฏาน เนปาล และเวียดนาม เป็นต้น ฉะนั้นในห้องเรียนจึงมีความหลากหลายทางเชื่อชาติ ศาสนา ภาษา และวัฒนธรรมให้นักศึกษาได้เรียนรู้ สิ่งนี้เองที่จะเป็นการบังคับให้นักศึกษาต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารด้วย นอกจากนั้นด้วยบรรยากาศของห้องเรียนที่มีความหลากหลายและมีการเรียนรู้ซึ้งกันและกัน จะทำให้นักศึกษาที่จบออกไปมีคุณสมบัติที่จะเป็น Global citizen หรือพลเมืองโลกด้วย
อีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จคือ หากเรามีโอกาสที่จะเดินทางไปต่างประเทศโดยเฉพาะในโครงการแลกเปลี่ยนต่างๆ จงคว้าไว้อย่าให้หลุดมือ ดร.จักรินทร์ บอกว่าเมื่อเร็วๆ นี้ทางวิทยาลัยได้ส่งนักศึกษาไทยคนหนึ่งไปโครงการ India ASEAN Exchange ที่ประเทศอินเดีย ซึ่งนักศึกษาคนดังกล่าวเข้ามาเรียนตอนแรกก็เรียนได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ปัจจุบันเขาสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล้ว ดร.จักรินทร์พูดว่า “ถ้าคนนี้ทำได้ คนอื่นก็ต้องทำได้”
ในอนาคตวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีแผนที่จะร่วมมือกันกับหอการค้าเมียนมาที่จะเปิดสาขาของวิทยาลัยนานาชาติที่ประเทศเมียนมา ซึ่งปัจจุบันมีการเตรียมการให้มีนักศึกษาอยู่ที่เมียนมาแล้วเกือบ 400 คน ดร.จักรินทร์ บอกว่า “ตอนนี้เราเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำเลยที่เมียนมา ตอนนี้กำลังจะเปิดสาขาที่นั้นร่วมกับสภาหอการค้าเมียนมา” นี้จึงเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่นักศึกษาจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน โดยนักศึกษาที่เมียนมาจะสามารถย้ายมาเรียนที่ไทยได้ ในทางกลับกันนักศึกษาไทยก็สามารถไปเรียนที่เมียนมาได้เช่นกัน
หากน้องๆ มีความตั้งใจ มีหัวใจที่เปิดกว้างพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี การเรียนภาษาอังกฤษจะไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเรียนรู้และเข้าใจ เพราะมันจะเป็นเพียงอีกเรื่องใหม่ที่เราต้องเรียนรู้และทำความรู้จักกับมันเท่านั้น เมื่อเราสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้แล้วสิ่งอื่นๆ อีกมากมายจะตามมาให้เราได้เรียนรู้ เราจะสามารถเรียนรู้ วัฒนธรรม ศาสนา และผู้คนได้เป็นอย่างดี หากมีความตั้งใจจริง เราสามารถเรียนได้แน่นอน สุดท้ายต้องถามตัวเองก่อนว่าชอบอะไร การเรียนหลักสูตรอินเตอร์ให้ประสบความสำเร็จจะไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน
คะแนน U–Review Score
วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย UTCC International College