"เส้นทางสู่ฝัน วันแห่งดารา" รีวิวสาขาศิลปะการแสดง : U-Review
เส้นทางมุ่งสู่ฝัน ถนนสู่วงการบันเทิงมีมากมาย นับไม่ถ้วน เมื่อวันนี่ที่ใครๆ ก็เป็นดารา นักแสดง หรือไอดอลได้ ใครๆ ก็สามารถแสดงตัวตน และสร้างแฟนคลับในอินเตอร์เน็ต ใน Facebook หรือใน YouTube ได้ สิ่งสำคัญคือจะสร้างตัวตนอย่างไร ให้อยู่ในแวดวงให้ได้นานที่สุด จะทำอย่างไรเพื่อเอาตัวเองเข้าไปอยู่เป็นส่วนหนึ่งของวงการบันเทิงจริงๆ ให้มีโอกาสเข้าถึงการแสดงละครเวที ละครโทรทัศน์ หรือภาพยนตร์ รอเวลาสู่การก้าวขึ้นเป็น Super Star
“เราเชื่อ และเข้าใจว่าการจะเป็น Super Star ไม่ใช่จะเก่งอย่างเดียว ต้องมีโอกาส และปัจจัยที่ส่งเสริมด้วย”
อาจารย์ มานินทร์ เจริญลาภ
คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์มีเดีย
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
การเรียนของสาขาศิลปะการแสดง คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เน้นไปที่การสร้างตัวจริงในวงการบันเทิง สามารถทำงานได้อย่าง 360 องศา ทั้งงานเบื้อหน้า การร้อง เล่น เต้น การแสดง และงานเบื้องหลังที่เป็นการออกแบบทุกอย่างที่เกี่ยวกับการแสดง ทั้งฉาก เสื้อผ้า แต่หน้า ทำผม ไปจนถึงเรียนเขียนบท กำกับการแสดง แคสติ้ง (Casting) และแอคติ้งโค้ช (Acting Coach)
“เราเน้นเรื่องของงานปฏิบัติ เรียนแบบ 360 องศา เรียนทุกอย่างให้รู้ก่อน แล้วเน้นทีละส่วนให้ Expert ในแต่ละด้าน”
อาจารย์ สุชาญวุฒิ กิ่งแก้ว
หัวหน้าสาขาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยศรีปทุม
เรียนการแสดง
วิธีการแสดงระหว่างสื่อต่างๆ จะมีความแตกต่างกันอยู่ ส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกับการแสดงในละครโทรทัศน์มากที่สุด การแสดงละครโทรทัศน์จะมีกล้องหลายๆ ตัว ในขณะที่คนดูโทรทัศน์จะมีระยะห่างจากจอระยะหนึ่ง ทำให้นักแสดงต้องแสดงสีหน้าที่ชัดเจน ในขณะที่การแสดงภาพยนตร์จะเป็นการสื่อสารด้วยภาพ จอภาพมีขนาดใหญ่ใกล้ชิดกับคนดู นักแสดงจะต้องเล่นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ละครเวที คนเล่นกับคนดูจะอยู่ห่างกันพอสมควร การแสดงละครเวทีจึงเน้นไปที่การแสดงท่าทาง แบบที่เราเรียกกันว่าเล่นใหญ่ ในการเรียนการแสดงน้องๆ จะได้เรียนการกำกับการแสดง และงานเบื้องหลังอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งการถ่ายภาพยนตร์ การถ่ายละคร และการเขียนบท
เรียนการเต้น
มีการสอนเต้นหลากหลายสไตล์ ทั้งแจ๊ส, โมเดิลแจ๊ส, คอนเทมโพรารี่, บัลเลต์ และการต่อยอดไปสู่การออกแบบท่าเต้น การเรียนเต้นได้ประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง คือการปรับบุคลิกภาพ การแสดงออกตามท่าทางเพื่อสื่อสารด้วยร่างกาย
เรียนการร้อง
เริ่มจากการอ่านโน้ตเพลง ที่เป็นพื้นฐานของการร้องเพลง และการเล่นดนตรี ไปสู่การเรียนขับร้อง ที่นี่จะให้น้องๆ ร้องเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงสากล ไทยสากล และมิวสิคัลให้ได้ จนสุดท้ายต้องค้นหาวิธีการร้องในแบบของตัวเองให้ได้
เรียนงานเบื้องหลัง
สำหรับการออกแบบ มีพื้นฐานสำคัญอย่างหนึ่ง คือการดรออิ้ง (Drawing) ฉะนั้นน้องๆ จะได้เรียนพื้นฐานการดรออิ้งตั้งแต่ปี 1 เพื่อให้สามารถทำงานในส่วนการออกแบบอื่นๆ ได้
การของแบบฉาก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะละครทุกเรื่องในโลกนี้จะขาดฉากไปไม่ได้ น้องๆ จะได้เรียนการออกแบบฉากทั้งที่เป็นซิมโบลิค (Symbolic) และเรียลลิสติก (Realistic) การกำหนดมูดแอนโทน (Mood and Tone) กำหนดสเกล สร้างโมเดล ไปจนถึงการลงมือสร้างจริง
การออกแบบเสื้อผ้า น้องๆ จะได้ทำเสื้อผ้าสำหรับตัวละคร ให้ตรงตามบุคลิกภาพ (Character) โดยตีความจากตัวละครกันตั้งแต่ปี 1 พอปี 2 ก็จะได้ทำแฟชั่นโชว์
การออกแบบเมคอัพ (Makeup) น้องๆ จะได้เรียนตั้งแต่พื้นฐานการแต่งหน้า ไปจนถึงการแต่งหน้าสำหรับละคร สำหรับภาพยนตร์ สำหรับละครเวที การแต่งหน้าแฟชั่นโชว์ การแต่งหน้าแฟนซี และการแต่งหน้าเอฟเฟค ซึ่งการแต่งหน้าแต่ละประเภทจะมีรายละเอียด และความต้องการที่แตกต่างกันออกไป
การออกแบบแสง เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญสำหรับงานการแสดงทุกแขนง เพราะแสง เงา จะเสริมอารมณ์ในงานแสดงให้ชัดเจนมากขึ้น หากไม่มีความรู้เรื่องการจัดแสง ทุกอย่างที่พยายามทำไปก็ไร้ความหมาย
งานในฝัน ทำแล้วมีความสุขเป็นสิ่งที่ตามมา หากน้องๆ ได้เลือกเรียนในสาขาที่รัก วิชาที่ชอบ ด้วยการเรียนที่หลากหลายในทุกมิติของศิลปะการแสดงนี้เอง เป็นการสร้างโอกาสให้สามารถทำงานได้ในทุกองค์ประกอบของวงการบันเทิง เป็นการสร้างโอกาสให้น้องๆ ได้อยู่ในวงการบันเทิงให้นานาที่สุด ได้เดินไปบทเส้นทางฝัน รอวันขึ้นเป็น Super Star อย่างเต็มตัว
“เราเชื่อ และเข้าใจว่าการจะเป็น Super Star ไม่ใช่จะเก่งอย่างเดียว ต้องมีโอกาส และปัจจัยที่ส่งเสริมด้วย”
อาจารย์ มานินทร์ เจริญลาภ
คณบดีคณะนิเทศศาสตร์ และผู้อำนวยการศูนย์มีเดีย
มหาวิทยาลัยศรีปทุม
การเรียนของสาขาศิลปะการแสดง คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เน้นไปที่การสร้างตัวจริงในวงการบันเทิง สามารถทำงานได้อย่าง 360 องศา ทั้งงานเบื้อหน้า การร้อง เล่น เต้น การแสดง และงานเบื้องหลังที่เป็นการออกแบบทุกอย่างที่เกี่ยวกับการแสดง ทั้งฉาก เสื้อผ้า แต่หน้า ทำผม ไปจนถึงเรียนเขียนบท กำกับการแสดง แคสติ้ง (Casting) และแอคติ้งโค้ช (Acting Coach)
“เราเน้นเรื่องของงานปฏิบัติ เรียนแบบ 360 องศา เรียนทุกอย่างให้รู้ก่อน แล้วเน้นทีละส่วนให้ Expert ในแต่ละด้าน”
อาจารย์ สุชาญวุฒิ กิ่งแก้ว
หัวหน้าสาขาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยศรีปทุม
เรียนการแสดง
วิธีการแสดงระหว่างสื่อต่างๆ จะมีความแตกต่างกันอยู่ ส่วนใหญ่เราจะคุ้นเคยกับการแสดงในละครโทรทัศน์มากที่สุด การแสดงละครโทรทัศน์จะมีกล้องหลายๆ ตัว ในขณะที่คนดูโทรทัศน์จะมีระยะห่างจากจอระยะหนึ่ง ทำให้นักแสดงต้องแสดงสีหน้าที่ชัดเจน ในขณะที่การแสดงภาพยนตร์จะเป็นการสื่อสารด้วยภาพ จอภาพมีขนาดใหญ่ใกล้ชิดกับคนดู นักแสดงจะต้องเล่นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ละครเวที คนเล่นกับคนดูจะอยู่ห่างกันพอสมควร การแสดงละครเวทีจึงเน้นไปที่การแสดงท่าทาง แบบที่เราเรียกกันว่าเล่นใหญ่ ในการเรียนการแสดงน้องๆ จะได้เรียนการกำกับการแสดง และงานเบื้องหลังอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย ทั้งการถ่ายภาพยนตร์ การถ่ายละคร และการเขียนบท
เรียนการเต้น
มีการสอนเต้นหลากหลายสไตล์ ทั้งแจ๊ส, โมเดิลแจ๊ส, คอนเทมโพรารี่, บัลเลต์ และการต่อยอดไปสู่การออกแบบท่าเต้น การเรียนเต้นได้ประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง คือการปรับบุคลิกภาพ การแสดงออกตามท่าทางเพื่อสื่อสารด้วยร่างกาย
เรียนการร้อง
เริ่มจากการอ่านโน้ตเพลง ที่เป็นพื้นฐานของการร้องเพลง และการเล่นดนตรี ไปสู่การเรียนขับร้อง ที่นี่จะให้น้องๆ ร้องเพลงพระราชนิพนธ์ เพลงสากล ไทยสากล และมิวสิคัลให้ได้ จนสุดท้ายต้องค้นหาวิธีการร้องในแบบของตัวเองให้ได้
เรียนงานเบื้องหลัง
สำหรับการออกแบบ มีพื้นฐานสำคัญอย่างหนึ่ง คือการดรออิ้ง (Drawing) ฉะนั้นน้องๆ จะได้เรียนพื้นฐานการดรออิ้งตั้งแต่ปี 1 เพื่อให้สามารถทำงานในส่วนการออกแบบอื่นๆ ได้
การของแบบฉาก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะละครทุกเรื่องในโลกนี้จะขาดฉากไปไม่ได้ น้องๆ จะได้เรียนการออกแบบฉากทั้งที่เป็นซิมโบลิค (Symbolic) และเรียลลิสติก (Realistic) การกำหนดมูดแอนโทน (Mood and Tone) กำหนดสเกล สร้างโมเดล ไปจนถึงการลงมือสร้างจริง
การออกแบบเสื้อผ้า น้องๆ จะได้ทำเสื้อผ้าสำหรับตัวละคร ให้ตรงตามบุคลิกภาพ (Character) โดยตีความจากตัวละครกันตั้งแต่ปี 1 พอปี 2 ก็จะได้ทำแฟชั่นโชว์
การออกแบบเมคอัพ (Makeup) น้องๆ จะได้เรียนตั้งแต่พื้นฐานการแต่งหน้า ไปจนถึงการแต่งหน้าสำหรับละคร สำหรับภาพยนตร์ สำหรับละครเวที การแต่งหน้าแฟชั่นโชว์ การแต่งหน้าแฟนซี และการแต่งหน้าเอฟเฟค ซึ่งการแต่งหน้าแต่ละประเภทจะมีรายละเอียด และความต้องการที่แตกต่างกันออกไป
การออกแบบแสง เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญสำหรับงานการแสดงทุกแขนง เพราะแสง เงา จะเสริมอารมณ์ในงานแสดงให้ชัดเจนมากขึ้น หากไม่มีความรู้เรื่องการจัดแสง ทุกอย่างที่พยายามทำไปก็ไร้ความหมาย
งานในฝัน ทำแล้วมีความสุขเป็นสิ่งที่ตามมา หากน้องๆ ได้เลือกเรียนในสาขาที่รัก วิชาที่ชอบ ด้วยการเรียนที่หลากหลายในทุกมิติของศิลปะการแสดงนี้เอง เป็นการสร้างโอกาสให้สามารถทำงานได้ในทุกองค์ประกอบของวงการบันเทิง เป็นการสร้างโอกาสให้น้องๆ ได้อยู่ในวงการบันเทิงให้นานาที่สุด ได้เดินไปบทเส้นทางฝัน รอวันขึ้นเป็น Super Star อย่างเต็มตัว