วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง

คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ปัจจุบันเปิดการเรียนการสอนทั้งหมด  7 หลักสูตร คือ เทคโนโลยีสารสนเทศ, วิทยาการคอมพิวเตอร์, สิ่งแวดล้อมเมืองและอุตสาหกรรม, อาชีวอนามัยและความปลอดภัย, เทคโนโลยีเคมี และวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง

สาขาวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง จำเป็นต้องเรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ไปจนถึงวิชาชีพวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง น้องๆ จะได้เรียนเกี่ยวกับการพัฒนา การวิจัยผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น แป้ง, ครีม, โลชัน, เซรั่ม, สบู่, แชมพู, ลิปสติก, รองพื้น, และน้ำหอม เป็นต้น และยังต้องเรียนพื้นฐานทางเคมี ต้องมีความรู้เรื่องส่วนผสมทุกชนิดในเครื่องสำอางว่าอะไรควรใส่หรือไม่ควร ใส่ไปแล้วจะเกิดผลอย่างไร รวมไปถึงเรียนเรื่องของการทดสอบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางให้ได้คุณภาพ

หากเข้ามาเรียนที่สาขาฯ เริ่มต้นปี 1 น้องๆ จะได้เรียนรู้เรื่องวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ทั้ง ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา เพื่อปูทางไปสู่วิทยาศาสตร์ขั้นต่อไปในปี 2 ซึ่งจะเริ่มเข้าสู่จุลชีววิทยาและสรีรวิทยาที่เกี่ยวกับผิวหนังของมนุษย์ โครงสร้างผิวหนัง ทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับผิวหนังทั้งหมด รวมไปถึงระบบภูมิคุ้มกันร่างกายและเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นบนผิวหนังของเรา ส่วนปี 3 - 4 น้องๆ จะเข้าสู่รายวิชาเอกเฉพาะ เช่น การจดแจ้งเครื่องสำอาง การประเมินความปลอดภัยของเครื่องสำอาง โดยรายวิชาเหล่านี้จะเรียนในห้องทดลอง (Lab) อีกทั้งต้องเรียนรู้เรื่องของจรรยาบรรณวิชาชีพ การฝึกปฏิบัติงานกับสถานประกอบการทั้งของภาครัฐและเอกชน และก่อนจบจะต้องทำสัมมนาวิชาการ ทำโปรเจคจบจากความรู้ ประสบการณ์ทั้งหมดที่ได้เรียนรู้มาตลอดหลักสูตรด้วย

“ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง” สุภาษิตคลาสสิคที่ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ยังใช้ได้เสมอ และดูเหมือนเรื่องความสวยความงามจะกลายเป็นเรื่องที่อยู่คู่กับคนเรามาช้านาน จนเราแทบไม่รู้ตัวกันเลยว่าธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพและความงามเริ่มได้รับความนิยมจนมีคลินิกเพื่อสุขภาพและความงามทั่วทุกมุมเมืองตั้งแต่เมื่อไหร่ จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า สถานบริการที่เกี่ยวเนื่องกับสปา และความงามในประเทศไทยมีจำนวนกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ และมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจมากกว่า 8,000 ล้านบาท หากรวมธุรกิจต่อเนื่องกับสปา และความงามจะทำให้ธุรกิจด้านนี้มีมูลค่าต่อปีสูงถึง 20,000-30,000 ล้านบาท ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นแต่เพียงในประเทศไทยเท่านั้น แต่มันเกิดขึ้นในทุกที่ของโลก แม้แต่ในประเทศเมียนมา สิงคโปร์ หรือลาวเองก็มีคลินิกสุขภาพและความงามของไทยไปเปิดให้บริการเช่นกัน สิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคต้องการจากกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับสปา และความงาม นอกจากความสวยแล้ว ความน่าเชื่อถือก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญ ผู้ที่ต้องการประกอบการด้านสปา และความงามจึงควรมีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านด้วย

สามารถประกอบอาชีพได้หลากหลาย เช่น นักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง ในสถาบันของรัฐและเอกชน ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องสำอาง เช่น การขายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง หรือวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง นักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง เช่น ผู้ให้คำปรึกษาด้านเครื่องสำอาง หรืออาจารย์ เป็นต้น

ระบบรับตรง (พฤศจิกายน-มกราคม)
- สำเร็จหรือกำลังศึกษาระดับชั้นม.6 แผนการเรียน วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ หรือ ศิลป์-คำนวณ
- สมัครผ่านทางเว็ปไซต์ www.dusit.ac.th

แอดมิชชัน
- GPAX 20%
- O-NET 30%
- GAT 10%
- PAT1 (คณิตศาสตร์) 10 %
- PAT2 (วิทยาศาสตร์) 30 %

145, 800 บาท

17, 350-24, 350 บาท/เทอม