5 ปัจจัยขับเคลื่อน StartUp รุ่นใหม่ไปสู่ความสำเร็จ
จากงานประกาศ “รางวัลแบรนด์ที่ผู้บริโภคเลือกซื้อมากที่สุด” มีประเด็นทางการตลาดที่น่าสนใจคือ การทำวิจัยจาก Brand Footprint Report ที่เป็นการสำรวจพฤติกรรมการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงาม, กลุ่มเครื่องใช้ในครัวเรือน, กลุ่มอาหาร/เครื่องดื่ม ฯลฯ แต่สิ่งที่น่าสนใจไม่ได้อยู่ที่ว่ากลุ่มไหนติดโพลล์บ้าง แต่อยู่ที่ ปัจจัยสำคัญ 5 ข้อ ของงานวิจัยชิ้นนี้มากกว่าที่เป็นตัวขับเคลื่อนให้แบรนด์เหล่านั้นประสบความสำเร็จ ไปดูกันดีกว่าปัจจัยแห่งความสำเร็จที่ว่าอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยค่ะ
1. More Moment
แบรนด์ที่จะประสบความสำเร็จต้องสร้างสิ่งที่เรียกว่า Moment of Truth (รักแรกพบ) ให้อยู่ในใจของผู้บริโภคให้ได้ ตัวอย่างจากกลุ่มแบรนด์แปรงสีฟัน/ยาสีฟันที่โดยปกติแล้วเราจะมีความรู้ชุดหนึ่งที่รับรู้ร่วมกันว่า “ คนเราต้องแปรงฟันวันละ 2 ครั้งเช้าและก่อนนอน” แต่มีแบรนด์ๆ หนึ่งสร้างองค์ความรู้ใหม่ที่บอกว่า “เราแปรงฟันได้หลายครั้งต่อวัน โดยเฉพาะหลังทานข้าว” เมื่อความรู้ชุดนี้แพร่กระจายออกไป ทำให้เกิด Moment of Truth ที่ผู้บริโภคเชื่อถือและปฏิบัติตาม สุดท้ายก็จะเกิดผลดีต่อยอดขายของแบรนด์ที่สร้างชุดความรู้ใหม่นี้ขึ้นมาได้สำเร็จ
2. More Target
แน่นอนว่าการทำแบรนด์ต้องมีฐานลูกค้าที่ชัดเจนว่าเป็น ใคร? อายุเท่าไหร่? รายได้ประมาณไหน? แต่สิ่งที่สำคัญเมื่อแบรนด์แข็งแกร่งในระดับหนึ่งแล้ว ต้องขยายฐานลูกค้าออกไปให้มากกว่าเดิม อย่างแบรนด์อาหารเจ้าหนึ่งในประเทศเกาหลีที่เล็งเห็นว่ามีคนโสดเพิ่มขึ้น เลยทำ “ชุดอาหารสำหรับทานคนเดียว” ผลที่ได้คือแบรนด์ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในเกาหลี ซึ่งคนที่อยู่กันเป็นครอบครัวก็สามารถซื้อชุดอาหารนี้ทานได้เช่นกัน
3. More Presence
ทำอย่างไรก็ได้ให้แบรนด์ของเราไปปรากฏในทุกๆ ที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังเช่นทางตอนใต้ของประเทศจีนแบรนด์ซอสมะเขือเทศ Heinz ได้มีความต้องการจะขยายแบรนด์ให้เกิดการรับรู้ที่กว้างขึ้นและเพิ่มยอดขายให้สูงขึ้น จึงได้ทำการสำรวจตลาดผู้บริโภคแล้วพบว่าทางตอนเหนือและตะวันตกของประเทศก็มีความต้องการซอสตัวนี้ แต่ด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่ทำให้ซอสรูปแบบขวดไม่เป็นที่นิยม จึงเป็นที่มาซอส Heinz รูปแบบซอง ซึ่งผลปรากฎว่าได้รับความนิยมถล่มทลายไม่ต่างกับแบบขวดก่อนหน้านี้แต่อย่างใด
4. More Categories
การแตกไลน์สินค้าถือเป็นเรื่องปกติที่หลายๆ แบรนด์ต้องทำอยู่เสมอ แต่ก็เกิดคำถามที่ว่าจะขยายประเภทสินค้าอย่างไรให้แบรนด์แข็งแกร่ง Downy แบรนด์ที่แรกเริ่มเดิมทีขายแต่น้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก บริษัทจึงทำการตลาดมาเรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง จนเข้าสู่การขยายไลน์สินค้าตัวใหม่เพิ่มเติม อาทิ ผงซักฟอก, สเปรย์, เทียนไข ฯลฯ ซึ่งนั่นส่งผลให้ Downy มีผลประกอบการเพิ่มขึ้น 5% ทั่วโลกเลยทีเดียว
5. More Needs
ยาคูลท์ (Yakult) แบรนด์ที่ทำตลาดกับผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวมาโดยตลอด ก็หันไปร่วมมือกับ Haru แบรนด์กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามเพื่อขยายตลาดความต้องการของผู้บริโภค โดยาคูลท์จะทำการส่งส่วนผสมที่เป็นผักและผลไม้ให้กับ Haru เพื่อนำเอาไปทำมาสก์หน้า (Mask) ถือเป็นการกระโดดลงมาเล่นกับตลาดสกินแคร์ที่เข้ามาสร้างความแปลกใหม่ให้กับผู้บริโภคนั่นเอง
ข้อมูล : brandinside.asia