Sir Tim Berners-Lee บิดาแห่ง WWW เตือนภัย 3 ประการ ที่มาพร้อมกับอินเทอร์เนตยุคใหม่
วันที่เวลาโพส
14 มีนาคม 60 11:10 น.
P' แพว AdmissionPremium
วันที่ 12 มีนาคมของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญสำหรับชาวอินเทอร์เนตผู้รักการท่องเว็บไซต์ เพราะมันคือวันเกิดของ World Wide Web’s (WWW) ซึ่งในปี 2017 นี้ ก็เป็นระยะเวลากว่า 28 ปีแล้วที่เวิลด์ไวด์เว็บถูกใช้งานมา นับตั้งแต่มีการยื่นข้อเสนอครั้งแรก และเนื่องในโอกาสครบรอบวันเกิดปีที่ 28 Sir Tim Berners-Lee หรือ ทิม เบอร์เนอร์ส์ ลี ผู้ที่ประดิษฐ์และออกแบบและถือเป็นบิดาของเวิลด์ไวด์เว็บ ได้เขียนความเรียงสื่อสารถึงผู้ใช้ทั่วโลก เกี่ยวกับปัญหาหลักๆ ของอินเทอร์เนตในยุคปัจจุบัน เป็น การเตือนภัย 3 ประการ ที่มาพร้อมกับอินเทอร์เนตยุคใหม่ โดย Tim ได้กล่าวถึงรายละเอียดของภัยทั้ง 3 ประการไว้ ดังนี้
ข้อ 1 "เราสูญเสียความสามารถในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของเราไปแล้ว" (We’ve lost control of our personal data)
ข้อมูลส่วนบุคคลของเรา ได้กลายเป็นทรัพย์สินของบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่างเช่น Facebook หรือ Google ไปแล้ว ถึงแม้จะมีความพยายามในการขอทวงคืนข้อมูลส่วนบุคคลในหลายครั้ง แต่ผู้ใช้ก็ไม่อาจต้านทาน ‘ความสะดวกสบาย’ ที่บริษัทเหล่านี้มอบให้ได้ และการที่เราไม่สามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้นี้ ยังมีผลกระทบด้านอื่นอีก เช่น รัฐบาลสามารถสอดส่องประชาชนได้อย่างอิสระด้วยกฎหมายสุดโต่ง บล็อกเกอร์ หรือ Social influencer ที่เขียนเรื่องการเมืองอาจโดนจับหรือถูกฆาตกรรม และคู่ต่อสู้ทางการเมืองก็อาจไม่รอดพ้นจากการสอดส่องหรือควบคุมแบบนี้ด้วย
ข้อ 2 "ข้อมูลปลอมและข่าวสารผิดๆ สามารถแพร่กระจายได้อย่างง่ายดายบนเว็บ" (It’s too easy for misinformation to spread on the web)
ด้วยการมาถึงของ Social Media ที่ทำให้การกดแชร์ข้อมูลเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วคลิก ข้อมูลที่ ‘ถูกออกแบบ’ มาให้โดนใจหรือสะกิดต่อมโกรธของเรา จะลุกลามอย่างรวดเร็วเหมือนกับไฟป่า ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์ข้อมูลและ BOT เพื่อเผยแพร่ข่าวสารผิดๆ ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้จุดอ่อนของเว็บในเรื่องนี้เพื่อผลประโยชน์ต่างๆ ได้
ข้อ 3 "การโฆษณาด้านการเมืองบนเว็บต้องการความโปร่งใสและความเข้าใจเป็นพื้นฐาน" (Political advertising online needs transparency and understanding)
การโฆษณาจูงใจเพื่อผลทางการเมืองบนเว็บ ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจธรรมชาติของเว็บและผู้คนมากกว่านี้ เรารู้ว่าในปัจจุบัน พรรคการเมืองต่างๆ ใช้วิธีการโฆษณาที่แตกต่างกันเพื่อเจาะไปที่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ โดยหวังว่าจะได้ประสิทธิผลมากที่สุด แต่เขาก็ตั้งคำถามว่าการแปลงสารของพรรคการเมืองพรรคเดียวกัน ไปยังคนกลุ่มต่างๆ กัน เพื่อ ‘ให้สัญญา’ ในสิ่งที่แตกต่างกัน ซึ่งวิธีการแบบนี้ เราจะสามารถเรียกว่า ‘ประชาธิปไตย’ ได้ไหม
จากข้อกังวลทั้ง 3 ประการ Tim กล่าวเพิ่มว่า เขาไม่ได้คาดหวังว่าความเปลี่ยนแปลงว่าจะต้องเกิดขึ้นภายในเร็ววันนี้ เพราะเขาเข้าใจดีว่าปัญหาทั้ง 3 ข้อนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและด้วยสภาพอินเทอร์เนตในปัจจุบันก็มีความยุ่งเหยิงมากพอแล้ว การคลี่คลายปัญหาไปทีละข้ออาจจะเป็นเรื่องยาก แต่เขาก็ยังหวังว่า ‘พวกเรา’ ในฐานะผู้ใช้อินเทอร์เนตทั้งหลาย จะตระหนักถึงปัญหาและร่วมกันกดดันบริษัทไอทีต่างๆ รวมไปถึงหน่วยงานรัฐ ให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เปิดเผยและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
Three challenges for the web, according to its inventor
www.w3.org
thematterco
ขอบคุณรูปภาพจาก
wikipedia.org/wiki/Tim_Berners-Lee
worldwebforum.ch
www.ted.com/speakers/tim_berners_lee
ข้อ 1 "เราสูญเสียความสามารถในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของเราไปแล้ว" (We’ve lost control of our personal data)
ข้อมูลส่วนบุคคลของเรา ได้กลายเป็นทรัพย์สินของบริษัทยักษ์ใหญ่ อย่างเช่น Facebook หรือ Google ไปแล้ว ถึงแม้จะมีความพยายามในการขอทวงคืนข้อมูลส่วนบุคคลในหลายครั้ง แต่ผู้ใช้ก็ไม่อาจต้านทาน ‘ความสะดวกสบาย’ ที่บริษัทเหล่านี้มอบให้ได้ และการที่เราไม่สามารถควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลได้นี้ ยังมีผลกระทบด้านอื่นอีก เช่น รัฐบาลสามารถสอดส่องประชาชนได้อย่างอิสระด้วยกฎหมายสุดโต่ง บล็อกเกอร์ หรือ Social influencer ที่เขียนเรื่องการเมืองอาจโดนจับหรือถูกฆาตกรรม และคู่ต่อสู้ทางการเมืองก็อาจไม่รอดพ้นจากการสอดส่องหรือควบคุมแบบนี้ด้วย
ข้อ 2 "ข้อมูลปลอมและข่าวสารผิดๆ สามารถแพร่กระจายได้อย่างง่ายดายบนเว็บ" (It’s too easy for misinformation to spread on the web)
ด้วยการมาถึงของ Social Media ที่ทำให้การกดแชร์ข้อมูลเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่ปลายนิ้วคลิก ข้อมูลที่ ‘ถูกออกแบบ’ มาให้โดนใจหรือสะกิดต่อมโกรธของเรา จะลุกลามอย่างรวดเร็วเหมือนกับไฟป่า ด้วยการใช้วิทยาศาสตร์ข้อมูลและ BOT เพื่อเผยแพร่ข่าวสารผิดๆ ผู้ไม่หวังดีสามารถใช้จุดอ่อนของเว็บในเรื่องนี้เพื่อผลประโยชน์ต่างๆ ได้
ข้อ 3 "การโฆษณาด้านการเมืองบนเว็บต้องการความโปร่งใสและความเข้าใจเป็นพื้นฐาน" (Political advertising online needs transparency and understanding)
การโฆษณาจูงใจเพื่อผลทางการเมืองบนเว็บ ต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจธรรมชาติของเว็บและผู้คนมากกว่านี้ เรารู้ว่าในปัจจุบัน พรรคการเมืองต่างๆ ใช้วิธีการโฆษณาที่แตกต่างกันเพื่อเจาะไปที่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ โดยหวังว่าจะได้ประสิทธิผลมากที่สุด แต่เขาก็ตั้งคำถามว่าการแปลงสารของพรรคการเมืองพรรคเดียวกัน ไปยังคนกลุ่มต่างๆ กัน เพื่อ ‘ให้สัญญา’ ในสิ่งที่แตกต่างกัน ซึ่งวิธีการแบบนี้ เราจะสามารถเรียกว่า ‘ประชาธิปไตย’ ได้ไหม
จากข้อกังวลทั้ง 3 ประการ Tim กล่าวเพิ่มว่า เขาไม่ได้คาดหวังว่าความเปลี่ยนแปลงว่าจะต้องเกิดขึ้นภายในเร็ววันนี้ เพราะเขาเข้าใจดีว่าปัญหาทั้ง 3 ข้อนั้นเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและด้วยสภาพอินเทอร์เนตในปัจจุบันก็มีความยุ่งเหยิงมากพอแล้ว การคลี่คลายปัญหาไปทีละข้ออาจจะเป็นเรื่องยาก แต่เขาก็ยังหวังว่า ‘พวกเรา’ ในฐานะผู้ใช้อินเทอร์เนตทั้งหลาย จะตระหนักถึงปัญหาและร่วมกันกดดันบริษัทไอทีต่างๆ รวมไปถึงหน่วยงานรัฐ ให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางที่เปิดเผยและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
Three challenges for the web, according to its inventor
www.w3.org
thematterco
ขอบคุณรูปภาพจาก
wikipedia.org/wiki/Tim_Berners-Lee
worldwebforum.ch
www.ted.com/speakers/tim_berners_lee
