เน้นสร้างตัวจริงในวงการการแสดงแบบ 360 องศา ทั้งงานเบื้องหน้า-เบื้องหลัง

วันที่เวลาโพส 06 กุมภาพันธ์ 60 13:45 น.

P'Biw AdmissionPremium

ทางทีมงานมีโอกาสพูดคุยกับ อาจารย์สุชาญวุฒิ กิ่งแก้ว หัวหน้าสาขาวิชาศิลปะการแสดง คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม หลักสูตรของเราเน้นการเรียนการสอนในภาคปฏิบัติด้วยสื่ออุปกรณ์การเรียนและสถานที่เรียนที่มีมาตรฐาน ทันสมัย เตรียมความพร้อมสำหรับการทำงาน มีความเชี่ยวชาญอย่างมืออาชีพทั้งงานเบื้องหน้าและงานเบื้องหลัง เรียน 360 องศา ด้านการแสดง ตั้งแต่พื้นฐานศิลปะการแสดง การร้องเพลง และการเต้น ทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ

ชั้นปีที่ 1 การเรียนพื้นฐานทั้งหมด พื้นฐานศิลปกรรมศาสตร์ พื้นฐานการร้องเพลง พื้นฐานการเต้น พื้นฐานการแสดง เรียนพื้นฐานการปฏิบัติ แต่ไม่ใช่การเรียนเนื้อหาแบบทฤษฎีทั้งหมด แต่เป็นการเรียนปฏิบัติ 80% เรียนทฤษฎี 20%

ชั้นปีที่ 2 ลงลึกเนื้อหาการสอนระดับ Advance ไม่ว่าจะเป็นด้านการร้องเพลง การออกแบบการเต้น การเรียนการแสดง ทุกอย่างในปีนี้จะยากขึ้น เพื่อให้นักศึกษาได้รู้ตนเองว่าจะเลือกต่อเอกอะไร

ชั้นปีที่ 3 นักศึกษาต้องตัดสินใจเลือกเอก เพื่อแยกไปตามความถนัดของตัวเอง โดยการนำความรู้ที่เรียนมาในชั้นปีที่ 1 และ ชั้นปีที่ 2 มาสร้างผลงานเป็นของตัวเองเพื่อเตรียมความพร้อมปฏิบิตงานในวงการบันเทิง

ชั้นปีที่ 4 ภาคการศึกษาที่ 1 เราจะให้นักศึกษาทำ “ศิลปะนิพนธ์” และ ภาคการศึกษาที่ 2 การนำความรู้ทำหมดที่เรียนไปปฏิบัติจริง เรียกว่า “สหกิจ” สหกิจไม่เหมือนฝึกงานปกติ เราสนับสนุนให้นักศึกษาเรียนรู้เหมือนการทำงานจริงๆ คือทำงานตามวันและเวลาสถานประกอบการจริง โดยอาจารย์จะประเมิณจากผลงานและชิ้นงานที่สถานประกอบการมอบหมาย

UploadImage

เราเลือกให้นักศึกษาเรียนรู้ทุกอย่างของศาสตร์ศิลปะการแสดงแบบ 360 องศา เพราะว่าการที่นักศึกษาก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัยเข้าสู่ชีวิตการทำงานจริง หนึ่งคำถามที่นักศึกษาจบใหม่ต้องเจอคือ แล้วคุณทำอะไรได้บ้าง ? ถ้านักศึกษาของเรามีพื้นฐานความรู้ทุกอย่าง อย่างเช่น “การแสดง” เราสอนให้นักศึกษาเข้าใจถึงแก่นหลักของบทละคร ตีความตัวละคร อารมณ์ที่จะถ่ายทอดออกมาเป็นการแสดงที่นำมาแสดงได้จริง “ร้องเพลง” เราสอนให้นักศึกษารู้มากกว่าการร้องเพลง นักศึกษาเราสามารถอ่านตัวโน้ตได้ “การเต้น” เราไม่ได้สอนเพียงแค่ให้นักศึกษาสามารถเต้นได้จริง เรายังลงลึกถึงเนื้อหาการสอนโคโรกราฟของท่าทาง เรามั่นใจว่าเราจะสอนให้นักศึกษาประยุกต์องค์ความรู้ของทุกด้านที่เรียนมา มาปรับใช้ในการทำงานจริง เพียงแต่จะมีความสามารถโดดเด่นทางด้านใดเป็นพิเศษ ความรู้เหล่านี้สามารถเพิ่มโอกาสการได้เข้าทำงานจริงที่มากกว่า เพราะนักศึกษาเรารู้มากกว่า และสามารถปฏิบัติใช้งานได้จริง

โอกาสงานของน้องที่จบสาขาศิลปะการแสดง ในอนาคตเป็นอย่างไรบ้าง สามารถประกอบอาชีพอะไรได้บ้าง ?

อย่างที่อาจารย์กล่าวไปข้างต้นว่านักศึกษาของเราจะมีความรู้ 360 องศา
เพราะฉะนั้นแน่นอนว่าจะมีงานรองรับอย่างแน่นอน ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง
UploadImage

- นักออกแบบเพื่อการแสดง

- นักออกแบบเสื้อผ้า

- นักออกแบบฉาก

- นักแสดง

- ครูสอนการแสดง

- ผู้คัดเลือกนักแสดง

- ผู้กํากับการแสดง

- ผู้ช่วยผู้กำกับการแสดง

- คนเขียนบทละคร

ผลงานของนักศึกษาเพื่อการันตรีว่า เรียนยังไม่จบ 4 ปีก็สามารถทำงานได้จริง ?

ส่วนมากนักศึกษาที่เรียนสาขาศิลปะการแสดง ที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม มีผลงานทางโฆษณาหรือมิวสิควีดีโอค่อนข้างเยอะ อาจารย์ขอยกตัวอย่างเช่นนักศึกษาที่ไม่ได้

หล่อมาก แต่เขามีความสามารถ

UploadImage

“น้องจูโน่” (นายฐิติพล สวัสดิศรี) นักศึกษาชั้นปีที่ 1 เพราะด้วยที่เขามีใจรักและชอบในด้านการแสดงอยู่แล้ว อาจารย์เลยให้คำแนะนำและผลักดันให้เขาสร้างผลงาน เราต้องเรียนรู้การทำงานในวงการบันเทิงหลายๆ ด้าน เช่น ไปเล่นละครเวที ละครโทรทัศน์ หรือแม้กระทั่งภาพยนตร์ จนตอนนี้ก็มีผลงานซิทคอม “ขวัญใจไทยแลนด์” ซึ่งออกกาศไปแล้ว

UploadImage

“กอล์ฟ” (นายตรีเทพ กรุงศรีเมือง) นักศึกษาชั้นปีที่ 2 น้องกอล์ฟจัดว่าเป็นเด็กนักศึกษาที่หน้าตาดี แต่ไม่เคยเข้าทำงานในวงกาบันเทิงเลย อาจารย์คิดว่ากอล์ฟมีโอกาสและมีที่ยืนในวงการบันเทิงแน่นอน เพราะเป็นคนที่มีความสามารถ ผมจึงแนะนำให้ลองไปสัมผัสทำงานจริงๆ ในวงการบันเทิง โดยการเริ่มต้นการทำงานในวงการบันเทิงจากการเป็นพิธีกร

เมื่อทางมหาวิทยาลัยสนับสนุนให้นักศึกษาทำงานได้ตั้งแต่ยังไม่สำเร็จการศึกษา
อาจารย์มีการแนะนำหรือช่วยเหลือทางด้านการเรียนอย่างไรบ้าง ?

สาขาศิลปะการแสดง ของเราสนับสนุนเรื่องการทำงานในวงการบันเทิง ดังนั้นถ้านักศึกษาต้องไปทำงานจริงๆ เช่น ถ่ายละคร ถ่ายหนัง ถ่ายโฆษณา สมมติถ้านักศึกษามีเรียนในวิชาภาค แต่บังเอิญติดถ่ายละคร นักศึกษาสามารถที่จะมาบอกกับอาจารย์ในสาขาได้ว่าติดถ่ายละคร อาจารย์ก็จะรับรู้ และจะมอบหมายงานให้เพิ่มเติม โดยที่จะไม่ขาดเรียน แต่จะต้องไปจริงๆ โดยบังคับมีหลักฐานจริงๆ ว่าไปทำงาน อาจารย์คิดว่าเป็นการสนับสนุนอีกแบบหนึ่ง แต่ก็มีเป็นบางกรณีที่ไม่ให้ไป อาจารย์จะดูตามเหตุผลและพิจารณา แต่ถ้านักศึกษาดันไปทั้งๆที่อาจารย์ไม่อนุญาตก็เท่ากับขาดเรียน ถ้าขาดเรียนครบกำหนด อาจารย์ประจำรายวิชาก็จะปรับตก

มหาวิทยาลัยศรีปทุม เรามีระบบการดูแลนักศึกษาแบบใกล้ชิดมากถึงมากที่สุด เราดูแลกันแบบครอบครัวจริงๆ ความใกล้ชิดนี่แหละจะทำให้เราเข้าใจนักศึกษา บางทีไม่เข้าเรียน ขาด หรือเกเร เราจะเริ่มถามจากการสอบถามส่วนตัว ถามจากเพื่อนสนิท จนกว่าอาจารย์จะได้คำตอบว่าทำไมเขาถึงหายไป อาจารย์ย้ำกับอาจารย์ทุกท่านเสมอว่าเราจะไม่ปล่อยนักศึกษาแม้แต่คนเดียวให้หลุดไป ต้องใส่ใจนักศึกษาไม่ใช่แค่การเรียน ต้องดูในเรื่องของการใช้ชีวิตของนักศึกษาด้วย

"อาจารย์ก็ย้ำกับนักศึกษาเสมอว่าให้อ่อนน้อมถ่อมตน เพราะการทำงานจริงในวงการบันเทิงยังไงมีเรื่องของ
การเคารพของซีเนียร์ จูเนียร์ รุ่นน้องต้องเคารพรุ่นพี่เสมอ นี่จึงเป็นอัตลักษณ์ของเด็กศิลปะการแสดง
ตรงต่อเวลา หนักเอาเบาสู้ อ่อนน้อมถ่อมตน อันนี้จะถูกปลูกฝังมาตั้งแต่แรกๆเลย"

คุณสมบัติของน้องๆ ที่ต้องการศึกษาต่อสาขาศิลปะการแสดง ?

ด้วยความคาดหวังว่าอยากจะเรียนศิลปะการแสดง อาจารย์ขออย่างเดียวเลยคือ “เปิดใจ” เปิดใจอยากที่จะเรียนจริงๆ นี่คือคุณสมบัติสำคัญ ไม่ใช่เขามาเพราะไม่รู้ว่าจะเลือกเรียนอะไร แล้วคิดว่าสาขาศิลปะการแสดงง่าย เราสอนแบบ 360 องศา นักศึกษาของเราต้องมีความรู้ในทุกๆ ด้าน เพราะฉะนั้นถ้าจะเข้ามาเรียนเพราะคิดว่าง่าย ไม่รอดแน่นอน นี่อาจจะเป็นจุดแข็งของสาขาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่เราใส่ใจทุกรายวิชาถึงแม้เราจะเน้นการปฏิบัติ แต่เรื่องความรู้พื้นฐานในรายวิชาทฤษฎีเราก็สอนให้รู้จริงเพื่อจะนำไปประยุกต์ ลงมือปฏิบัติใช้จริงในโดยใช้พื้นฐานทฤษฎีที่เรียนมา

UploadImage